เรตติ้งประจำสัปดาห์ 11-18 พ.ย.2562 เรตติ้งประจำสัปดาห์นี้ ตรงกับช่วงเทศกาลลอยกระทง ทำให้ยอดผู้ชมทีวีลดลงมากในช่วงคืนวันจันทร์ที่ 11 พ.ย.มีผลต่อภาพรวมเรตติ้งเฉลี่ยของหลายช่องในสัปดาห์นี้ลดลง
ในช่วงที่ช่อง 3 เจอสถานการณ์ละครไพรม์ไทม์ชุดใหม่ เรตติ้งลดต่ำลง ต่ำกว่า 2 กันหลายเรื่อง ตั้งแต่เรื่อง “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” มาจนถึง “ทีใครทีมันส์” ที่ออกอากาศไป 3 ตอนเรตติ้งต่ำสุดอยู่ที่ 1.460 ซึ่งนับเป็นละครไพรม์ไทม์ที่มีเรตติ้งน้อยที่สุดของช่อง 3 ซึ่งก่อนหน้านี้ “บ่วงนฤมิต” ทำสถิติตอนที่ต่ำสุดได้ 1.463 และละคร “ดาวหลงฟ้า” ที่ต้องมาออนแอร์ต่อจาก “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” ที่จบไปด้วยเรตติ้ง 1.849 ทำให้ “ดาวหลงฟ้า” สตาร์ทด้วยเรตติ้งเพียงแค่ 1.842 เท่านั้น แต่ “เขาวานให้หนูเป็นสายลับ” ละครคอเมดี้ ที่ออนแอร์ช่วงปลายสัปดาห์ สามารถทำเรตติ้งได้สูงสุดของช่องในสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เรตติ้ง ตอนที่ 4-6 อยู่ที่ 3.098 3.684 และ 3.486 ขึ้นมาจาก 3 ตอนแรกในสัปดาห์ก่อนหน้า ที่ได้ไป 2.939 , 2.743 และ 2.611
นอกจากนี้ช่อง 3 ยังมีละครเย็น “รักแท้ของนายถึก” แม้จะถ่ายทำเสร็จมานานกว่า 5 ปี แต่ก็ทำเรตติ้งได้สูงสุดอยู่ที่ 3.376 ละครรีรันเสาร์ อาทิตย์ “ผู้กองยอดรัก” ได้ไป 1.294 และ 1.146 แต่ในภาพรวมเรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 3 ลดลงจากสัปดาห์ก่อนเล็กน้อย จาก 1.120 มาอยู่ที่ 1.052 สาเหตุหลักจากละครไพรม์ไทม์ช่วงวันทำงานที่ได้รับความนิยมน้อยลง
ช่อง 7 แชมป์เรตติ้งมีเรตติ้งเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 1.949 เป็น 1.963 หลักๆมาจากละครเย็น “เจ้าสัวมั่วนิ่ม” และ ละครไพรม์ไทม์ “ตะกรุดโทน” ที่ทำเรตติ้ง 7.063 7.325 และ 7.002 เป็นรายการที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง 7 ประจำสัปดาห์
นอกจากนี้รายการช่วงวันหยุดที่ทำเรตติ้งได้ดี “ MasterChef Junior Thailand” เรตติ้ง 4.491 “ลูกทุ่งไอดอล” 3.668 ละครพื้นบ้าน “นางสิบสอง” 4.266 และ 4.570 ละครเช้าวันหยุด “ยามป่วนกวนหัวใจ” 3.001 และ 3.043
ช่อง Mono มีเรตติ้งเฉลี่ยลดลงจาก 0.937 เป็น 0.867 ยังอยู่ในอันดับ 3 ส่วนเวิร์คพอยท์เรตติ้งเฉลี่ยเพิ่มเล็กน้อยจาก 0.707 เป็น 0.717 โดยรายการ “ไมค์ทองคำ ปี 8 “ ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง 3.325 และ 3.486 ส่วนรายการช่วงเย็นวันหยุด “ซุปเปอร์ 100” ทำเรตติ้งได้ดี 1.702
ในขณะที่ช่อง One เมื่อไม่มีละครปลายสัปดาห์เข้าช่วย อีกทั้งเป็นช่วงละครเย็นชุดใหม่ “สัญญาแค้นแสนรัก” ละครสต็อคที่ได้ฤกษ์ออกอากาศในช่วงนี้ จึงเป็นช่วงที่เรตติ้งเฉลี่ยลดลงจาก 0.657 เป็น 0.616 ในเดือนนี้ช่อง One ปรับกลยุทธ์ขยายรายการ “ข่าววันศุกร์” ของ “จั๊ด ธีมะ” รายการข่าวที่ทำเรตติ้งดีที่สุดของช่อง เป็น 2 ชั่วโมงเต็ม เริ่ม 22 พ.ย.นี้ แต่เรตติ้งสัปดาห์ที่ผ่านมานี้ได้ไป 2.285 และขยายรายการประกวดร้องเพลง “ดวลเพลงชิงทุน”มาเพิ่มวันเสาร์อีก 1 วัน โดยเรตติ้งวันศุกร์ และเสาร์ที่ผ่านมานี้ได้ 3.632 และ 2.847 ส่วนรายการ “The Golden Song เวทีเพลงเพราะ” เรตติ้ง 2.606 ปิดท้ายด้วยภาพยนตร์วันศุกร์ “เพื่อนที่ระทึก” 0.620
ไทยรัฐทีวีและอมรินทร์ทีวี เรตติ้งเฉลี่ยเพิ่มขึ้นจาก 0.430 เป็น 0.513 โดยเฉพาะไทยรัฐทีวี ในวันที่ถ่ายทอดสดฟุตบอลไทย แพ้มาเลเซีย ทำเรตติ้งได้ 5.023 และถ่ายทอดสดการออกเลขล็อตแตอรี่ ได้เรตติ้ง 1.375 ส่วนช่องอมรินทร์ที่ถ่ายทอดสดรายการออกสลากเช่นเดียวกันได้ไป 0.497 ละคร “รองเท้านารี” เรตติ้ง 0.689 และ 0.801 ในขณะที่ช่อง 8 นอกจากละครเริ่ม “เล่ห์รัญจวน” ทำเรตติ้งดีแล้ว ยังมีการถ่ายทอดสดมวยไทยซุปเปอร์แชมป์ วันอาทิตย์ 1.631 ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยช่องเพิ่มจาก 0.317 เป็น 0.329
ช่อง 9 เข้าวินอันดับ 10
อันดับ 10 ยังคงเป็นที่น่าจับตาในทุกสัปดาห์ สัปดาห์นี้ตกเป็นของช่อง 9 อสมท ซึ่งรายการหลักทำเรตติ้งดีเป็นรายการถ่ายทอดสดมวยไทยใน 6 วัน ในขณะที่พีพีทีวี ยังแก้ไม่ตกกับปัญหาลิขสิทธิ์บอลพรีเมียร์ลีก ยังไม่สามารถถ่ายทอดสดได้เสียที แต่ในสัปดาห์นี้มีการถ่ายทอดสดการอุ่นเครื่องบอลไทย เตรียมทีมก่อนซีเกมส์ เอาชนะพม่า 3-2 ได้เรตติ้งสูงสุดของช่อง 1.151 แต่โดยภาพรวมเรตติ้งเฉลี่ยช่องก็ลดลงจาก 0.204 เป็น 0.196 ตกลงมาอยู่ในอันดับ 11
สำหรับกลุ่มช่องนอกกลุ่ม TOP 10 ช่อง GMM25 ก็เป็นอีกช่องที่ยังขยันจัดรายการบันเทิงลงผังมากมาย ทั้งละครและรายการวาไรตี้ แต่ก็ยังเกาะอยู่ที่อันดับ 12 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 0.164 ส่วนช่องที่เหลือเรตติ้งแบ่งเรตติ้งเฉลี่ยกันไป
กลุ่ม 5 อันดับสุดท้าย มีช่องภาครัฐ 2 ช่อง ได้แก่ช่อง 5 และ NBT โดยที่ 3 ช่องภาคธุรกิจ ที่ยังไม่ฟื้นตัว แม้ว่าจะมีการคืนช่องไปหลายช่องแล้ว ได้แก่ True4U นิวทีวี และ TNN ถึงตอนนี้คงเดากันไม่ยาก ว่าจะเป็นช่องไหน ที่เริ่มอยากจะขอคืนช่องและได้เงินชดเชยตามคำสั่งคสช. เหมือนที่ได้กันไป 7 ช่องก่อนหน้านี้
แต่มาถึงตอนนี้ การคืนช่องยังทำได้ เพียงแต่ไม่ได้เงินชดเชยหลายร้อยล้านบาทเหมือน 7 ช่องเท่านั้นเอง เพราะไม่มีอำนาจพิเศษมาช่วยแล้ว จะคืนหรือไม่ ต้องถามใจเจ้าของช่องแต่ละช่อง จะสู้ต่อไหม และจะสู้ด้วยกลยุทธ์อะไร ที่เหลือก็สู้สู้กันต่อไป