บริษัททรู คอร์ปอเรชั่น ได้รายงานผลประกอบการในไตรมาส 2/2462 ที่ตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 14 ส.ค.ที่ผ่านมา โดยในส่วนของรายได้ธุรกิจคอนเทนต์ทีวี และออนไลน์ ของทรูวิชั่นส์ มีรายได้ในไตรมาสนี้อยู่ที่ 3,002 ล้านบาท เติบโต 3.7% จากไตรมาสแรกนี้ ที่มีรายได้ 2,894 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการจัดคอนเสิร์ตเกาหลี
ทั้งนี้รายได้ของการจัดคอนเสิร์ตเกาหลีอยู่ในหมวดรายได้จากธุรกิจบันเทิงสปอนเซอร์ โฆษณา และอื่นๆ ซึ่งมีรายได้อยู่ที่ 1,075 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามในภาพรวมรายได้เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้วนั้น ทรูวิชั่นส์มีรายได้ลดลง 15.1% โดยไตรมาส 2/2561 มีรายได้อยู่ที่ 3,537 ล้านบาท เนื่องจากในปีที่แล้วมีรายได้จากได้ลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018
สำหรับรายได้จากค่าสมาชิกและค่าติดตั้ง ในไตรมาสนี้มีรายได้ 1.928 ล้านบาท โดยรายได้ส่วนนี้ยังคงเป็น
รายได้หลักของทรูวิชั่นส์ หรือ 64% ของรายได้จากการให้บริการของทรูวิชั่นส์ โดยเมื่อเร็วๆนี้ ทรูวิชั่นส์ได้ประกาศว่า ได้รับลิขสิทธิ์การ ถ่ายทอดสด ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ผ่านทุกแพลตฟอร์ม ซึ่งกลุ่มทรูได้ชี้แจงว่า น่าจะช่วยสร้างการเติบโตได้ในครึ่งหลังของปีนี้ จาก รายได้จากคอนเทนต์ทั้งแพ็กเกจของทรูวิชั่นส์และการ sublicense บางแมตซ์ให้ผู้ให้บริการรายอื่น รวมถึง รายได้จากการโฆษณาทั้งช่องทางโทรทัศน์และดิจิทัล
ทรูวิชั่นส์รายงานว่า ณ สิ้นไตรมาส 2 ปีนี้ มีจำนวนลูกค้ารวมกว่า 4 ล้านราย โดยเป็นตัวเลขฐานลูกค้าในระบบ แบบเก็บค่าบริการสมาชิกจำนวน 2.3 ล้านราย และมีรายได้ต่อผู้ใช้บริการต่อเดือนเท่ากับ 288 บาท ทั้งนี้จำนวนลูกค้าที่ สมัครสมาชิกแพ็กเกจมาตรฐานหรือแสตนดาร์ดลดลงในไตรมาส 2 ที่ผ่านมา จากการหนุนแคมเปญกล่อง TrueID TV ซึ่งฐานลูกค้าไม่ได้ถูกนำมารายงานภายใต้ทรูวิชั่่นส์
ในขณะเดียวกันกลุ่มทรูฯ ได้รายงานว่า บริการ TrueID ที่เป็นการให้บริการ OTT ทีวีออนไลน์ มีจำนวนผู้ใช้บริการต่อเดือนมากกว่า 19 ล้านราย ณ สิ้นไตรมาส 2 ปี 2562
สำหรับภาพรวมของกลุ่มทรู ไตรมาส 2/2562 มีรายได้รวม 33.573 ล้านบาท โดยเป็นรายได้ที่ไม่รวมรายได้จากการขายสินทรัพย์เข้ากองทุน DIF มีกำไร 1,060 ล้านบาท ลดลง 29.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีนี้ ที่มีกำไรอยู่ที่ 1,509 ล้านบาท และลดลง 89.1% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีกำไรอยู่ที่ 9,751 ล้านบาทโดยรายได้หลักมาจากบริการมือถือ และรายได้จากทรูออนไลน์
