นอกจากสู้กันในผังละครใหม่แล้ว ช่อง 7 และช่อง 3 ยังมีการสู้กันดุเดือดในการจัดวางผังรายการรีรัน โดยเฉพาะในชุดละครเก่า ที่มีช่วงเวลาเช้า บ่าย เป็น 2 ช่วงเวลาที่ต้องจัดคิวสลับหลอกล่อกันไม่แพ้ช่วงละครใหม่กันเลยทีเดียว
ทั้งช่อง 3 และช่อง 7 สู้กันในช่วงรีรันละครบ่าย ด้วยการนำเสนอละครที่ออกอากาศไปปีก่อนหน้ามาออนแอร์ในช่วงนี้ เป็นผังที่สู้กันมานานหลายปีตั้งแต่ก่อนยุคทีวีดิจิทัล
แต่ช่อง 3 มาเปิดกลยุทธ์ช่วงใหม่ตอนเช้า ตั้งชื่อช่วงว่า “ละครดังข้ามเวลา” เริ่มตั้งแต่เดือนพ.ย. 2560 เปิดด้วยละคร “แรงเงา” เวอร์ชั่น แอน ทองประสม ที่เคยออกอากาศในปี 2544 ได้รับการตอบรับดี เรตติ้งพุ่งชนะรายการช่อง 7 ในช่วงเวลาเดียวกันที่ส่วนใหญ่ออกอากาศภาพยนตร์ทั้งไทย ต่างประเทศ จนปีถัดมาช่อง 7 ต้องตามกระแสแบบช่อง 3 ด้วยการจัดช่วงเวลา “ละครดังที่คิดถึง” เลือกละคร “แจ๋วใจร้าย กับคุณชายเทวดา” ที่มี อั้ม พัชราภา ตัวแม่ของช่อง 7 นำแสดง มาสู้กับช่อง 3
หลังจากนั้นสมรภูมิสนามละครรีรันเช้าของทั้ง 2 ช่องก็สู้กันอย่างสนุก จนจัดว่าเป็นอีกช่วงที่เรียกทั้งเรตติ้ง และรายได้จากค่าโฆษณา ให้กับทั้ง 2 ช่องชัดเจน
นอกจากช่อง 7 และช่อง 3 แล้ว ช่อง One ก็มีการจัดช่วงเวลาละครรีรันช่วงเช้าเช่นกัน ออกอากาศมาก่อนทั้ง 2 ช่อง แต่คอนเซ็ปต์ต่างกัน เป็นการจัดละครที่ออกอากาศไปไม่นานในช่อง One มาออกอากาศ และความนิยมยังห่างกับทั้ง 2 ช่องใหญ่ เพราะยังมีในละครในสต๊อคน้อยกว่า
สำหรับเรตติ้งประจำวันที่ 27 ส.ค.2562 รายการรีรันที่ทำเรตติ้งสูงสุด ได้แก่ละครรีรันบ่าย “มัสยา” ทางช่อง 7 ได้ความฮอตหล่อทะลุจอของ “มิกค์ ทองระย้า” เรียกเรตติ้งได้ถึง 2.005 เอาชนะละครรีรันช่วงเดียวกันจากช่อง 3 “ประกาศิตกามเทพ” เรตติ้ง 1.080
ส่วนภาคเช้า ละครรีรัน “ดอกแก้ว” ที่มี “ใหม่ ดาวิกา” แสดงนำ จากช่อง 7 ในตอนจบ ทำเรตติ้งไว้ 1.792 เอาชนะละครรีรัน “ไฟโชนแสง” ที่มี “ชมพู่ อารยา” แสดงนำ ของช่อง 3 ได้เรตติ้ง 1.208 ในขณะที่ละครรีรันช่อง One “เรือนเบญจพิษ” เรตติ้ง 0.449
การมีละครรีรันภาคเช้าที่เรียกเรตติ้งได้สูง ยังช่วยส่งต่อเรตติ้งไปยังรายการข่าวเที่ยงของทั้ง 2 ช่อง ที่เคยสูสีกัน แต่ช่อง 3 ที่พักหลังได้ “หนุ่ม กรรชัย” เป็นแม่เหล็กคนใหม่ ทำเรตติ้งช่วงรายการข่าวเที่ยงให้ช่อง 3 มากกว่า แต่การส่งช่วงต่อจากละครเช้า มีผลทำให้เรตติ้งรายการข่าวเที่ยงของช่อง 7 เอาชนะช่อง 3 ได้หลายวันติดกันแล้ว
จึงไม่แปลกใจที่ ละครรีรันที่ออนแอร์เรื่องใหม่ของทั้ง 2 ช่อง ก็ยังจำเป็นต้องเป็นละครที่รวมเหล่าบรรดาซุปตาร์ของช่องเอาไว้เรียกคนดู ช่อง 7 จึงจัด “พระจันทร์ลายพยัคฆ์” ที่รวมเอาซุปตาร์ของช่อง 7 ทั้ง “เวียร์ ศุกลวัฒน์” “อั้ม พัชราภา” “ยุ้ย จีรนันท์” มาลงจอ
ในขณะที่ช่อง 3 เตรียมจัด “เกมร้ายเกมรัก” ละครสร้างความจิ้น ความฟินของนักแสดงเบอร์ 1 ของช่อง “ณเดชน์ และ ญาญ่า” ที่ช่วงนี้มีกระแสความหวานชัดเจน ความรักสุกงอม ลงผังออกอากาศสู้กันเต็มที่
ส่วนละครรีรันช่วงใหม่ของช่อง 3 เวลา 6 โมงเย็น “คลื่นชีวิต” ทำเรตติ้งไว้ที่ 1.435 ดีกว่าซีรีส์อินเดียที่เคยออกอากาศก่อนหน้านี้ แต่ก็ยังตามหลังรายการวาไรตี้เกมโชว์ของช่อง One และช่อง 7 “ดวลเพลงชิงทุน” 2.973 และ “แหวน 5 ท้าแสน”ช่อง 7 เรตติ้ง 2.367 และ “ไมค์หมดหนี้” เวิร์คพอยท์ 2.134
นอกจากนั้นก็เป็น ละครรีรันช่อง 3SD ช่อง 28 “ชาติพยัคฆ์” 1.058 และ “ตะวันยอแสง” 1.005 แสดงให้เห็นว่า หากเป็นละครที่มีคุณภาพดี มีความสนุก การดำเนินเรื่องที่เหมาะสม แม้จะเป็นละครรีรัน แต่ก็มีโอกาสทำเรตติ้งได้ดีกว่าละครใหม่ของช่องอื่นๆ
ส่วนรายการเกมโชว์ รีรันที่ทำเรตติ้งมาในอันดับ 8 ได้แก่ The Money Drop Thailand ช่อง 7 ที่เพิ่งจัดช่วงรายการรีรันในเวลา 5 ทุ่ม เรตติ้งรีรันครั้งแรกในช่วงเวลานี้อยู่ที่ 0.679 อีก 2 รายการเป็นของเวิร์คพอยท์ ที่จัดรายการรีรันต่อเนื่องทุกวัน โดยมี “ซุปเปอร์หม่ำ” “ชิงร้อยชิงล้าน” ที่ยังคงได้รับความนิยมสม่ำเสมอเรตติ้งรีรันอยู่ที่ 0.658 และ 0.630
ในยุคที่แต่ละช่อง ต่างก็ต้องแก้ปัญหาด้านเม็ดเงิน เนื่องจากเจ้าของสินค้าหลายรายชะลอการใช้เงิน จึงเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ สำหรับการลดต้นทุนโดยนำทรัพยากรด้านรายการที่มีอยู่เดิม กลับมารีรันเพื่อลดค่าใช้จ่าย