ผลประกอบการ ปี 2563 ของ บริษัท ทริปเปิล วี บรอดคาสท์ จำกัด หรือ ไทยรัฐทีวี ซึ่งเป็นบริษัทที่รับใบอนุญาตประกอบการทีวีดิจิทัล รายงานต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า รายได้รวม 1,515.06 ล้านบาท และ กำไรครั้งแรกในรอบ7ปี จำนวน 175.87 ล้านบาท ในปี 2563 กลุ่มธุรกิจทีวีดิจิทัลอื่น ส่วนใหญ่ มีรายได้ลดลง มีสาเหตุมาจากมีรายได้ลดลง มีสาเหตุมาจากผลกระทบของ COVID-19 เม็ดเงินโฆษณาลดลง แต่ช่องที่โดดเด่นด้านรายการข่าว ไทยรัฐทีวี และช่องอมรินทร์ทีวี ในปี 2563 มีกำไรทั้งคู่รายได้รวม ปี 2 โดยรายได้รวมปี 2563 ของไทยรัฐทีวีเพิ่มขึ้น 10.09 % เมื่อเปรียบเทียบปี 2562
(อ่านข้อมูลเพิ่มเติม ผลประกอบการดีต่อเนื่อง อมรินทร์ทีวี ปี 63 กำไร 233 ล้านบาท link ข่าว )
จากข้อมูล กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ พบว่า รายได้รวมช่อง ไทยรัฐทีวี ตั้งแต่ปี 2557 มีรายได้ดังนี้ ปี 2557 ซึ่งเป็นปีแรกที่มีช่องทีวีดิจิทัลเข้ามาแข่งใหม่ 24 ช่อง ปี 2557 มีรายได้ 217 ล้านบาท ปี รายได้ 2558 495 ล้านบาท ปี2559 รายได้ 566.29 ล้านบาท ปี รายได้2560 740.36 ล้านบาท ปี มีรายได้2561 1099.35 ล้านบาท และปี2562 มีรายได้ 1,376.10 ล้านบาท ไทยรัฐทีวี ยังไม่เคยมีกำไร ตั้งแต่ปี 2557 โดยขาดทุนสูงสุด ในปี 2558 จำนวน 1,148 ล้านบาท และมีแนวโน้ม การขาดทุนที่ลดลงอย่างก้าวกระโดด ในปี 2563ไทยรัฐทีวี สามารถลดต้นทุนการขายได้ถึง 15.22 %โดยมีต้นทุนขายอยู่ที่ 1,001.93 ล้านบาท
ตารางเรตติ้งปี 2562 กับ 2563
เรตติ้งทีวีดิจิทัล ประจำปี 2563 : เปลี่ยนผ่านปีชวด ยุคโควิด เข้าสู่ปีฉลู ต้องสู้เพื่อรอด
ในภาพรวมปี 2563 ช่องไทยรัฐทีวี มีเรตติ้ง เฉลี่ยอยู่ที่ 0.587 อยู่ในอันดับ 6 เพิ่มขึ้นจากเรตติ้งเฉลี่ย 0.448 ในปี 2562 ที่อยู่ในอันดับ 6 โดย ไทยรัฐทีวี ชูคอนเทนต์ข่าว การถ่ายทอดสดกีฬา แนวโน้มเรตติ้ง ของ ไทยรัฐทีวี มีแนวโน้มดีวันดีคืนในปี 2563 โดย เรตติ้ง เดือน เมษายน และ พฤษภาคม ขึ้นมาอยู่ที่ 5 เป็นครั้งแรกอาจมีสาเหตุมาจาก ช่วงต้นปี 2563 ประชาชนเริ่มตื่นตระหนกต่อการระบาดของไวรัสโควิด-19 และ ช่องไทยรัฐ เน้นทางด้านข่าว ประชาชนจึงติดตามข่าวมากขึ้น
