@@@ สงกรานต์ปีนี้ พิเศษกว่าทุกปี เมื่อประเทศไทยต้องประสบกับวิกฤตโควิด 19 รัฐบาลประกาศงดเว้นไม่ให้เป็นวันหยุด พร้อมมาตรการควบคุมไม่ให้แพร่ระบาดในวงกว้าง จนอาจรับมือไม่ไหว Social Distancing คือศัพท์ใหม่ที่ไทยรู้จักและคุ้นเคย การเว้นระยะทางสังคมทำให้หลายคนต้อง Work from home อยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ ซึ่งถึงวันนี้ต้องถือว่าได้ผลดีอย่างน่าชื่นชมทีเดียว แต่ที่สถานีฯโทรทัศน์ย่านพระรามสี่ กลับมีเรื่อง HOT ที่จัดระดับความร้อนแรงแบบว่า ร้อนเปรี้ยงงงงงงงง สัญญาณของการเปลี่ยนแปลง เริ่มก่อตัวอีกแล้ว
@@@ เมื่อสงกรานต์ เป็นวันสุดท้ายของการทำงาน สุชาติ ภวศิริพร Chief Human Resource Officer กลุ่มช่อง 3 ลูกน้องคนสนิทของ “บี๋ อริยะ พนมยงค์” ที่หอบหิ้วกันมาจาก LINE สุชาติ มีผลงานเด่นชัดจากการจัดโครงสร้างบริษัท LINE มาใหญ่ที่กลุ่มช่อง 3 ในตำแหน่งใหญ่สุดของสายงานทรัพยากรบุคคล ดูแล โครงสร้างบริษัท สวัสดิการพนักงาน และอื่นๆ อีกมากมาย ยื่นจดหมายลาออก ยื่นปุ๊บ ออกปั๊บ มีผลทันทีในวันนั้น พร้อมกระจิบข่าวเล่าว่าเก็บของกันแบบเร่งด่วน ผู้บริหารระดับสูงเช่นนี้ จะลาออกทั้งที ตามหลักการจะต้องมีระยะเวลาการมอบส่งงานไม่น้อยกว่า 1 เดือน
แต่การลาออกของมือขวา “บี๋-อริยะ” ครั้งนี้ กลับมีผลทันทีในวันที่แจ้งความประสงค์ ก็เลยเป็นเหตุให้งุนงง สงสัย สงสั้ย สงสัย กันว่าทำไม ไม่ต้องมอบงานหรือจ๊ะ แล้วทำไมคุณอริยะไม่ฉุดรั้งไว้เลยเหรอ เออ มันแปลกดีนะ
@@@ ไม่ได้มีเพียงคนเดียวที่ลาออก เมื่อ Chief Marketing Officer “วัชรี ศิริเวชวิวัฒน์” ของกลุ่มช่อง 3 ที่มีอดีตการทำงานค่อนชีวิตเป็นคนจากกลุ่มจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ ก็ประกาศลาออกล่วงหน้าไปก่อนหน้า “สุชาติ” ไปได้ไม่กี่วัน หน้าที่ของวัชรีมีความสำคัญเพราะดูแลการตลาดและการโฆษณา งานนี้คนในช่อง 3 หลายคนไม่รู้ หลายคนรู้ช้ามาก เพราะยังไม่มีการแจ้งอย่างเป็นทางการ แต่วงการเอเจนซี่โฆษณารับรู้กันถ้วนหน้าและนำข่าวสาร มาเล่าให้คนในวงการได้ร่ำลือกัน แบบคนช่อง 3 ร้องว่า จริงเหรอ
@@@ ทั้ง สุชาติ และวัชรี เป็นผู้บริหารระดับสูงที่ “บี๋ –อริยะ” ดึงมาเป็นชุดแรกๆ สุชาติ ปึ้กกับนายแค่ไหน การตามนายเข้ามาที่ช่อง 3 เป็นคนแรก เมื่อเดือนมิ.ย.ปีที่แล้ว คงการันตีสายสัมพันธ์ว่า สุชาติ และ อริยะ ได้ดี ส่วน วัชรี ได้รับความไว้วางใจจาก อริยะให้เข้ามารับหน้าที่สำคัญในเดือนก.ค. เป็นหัวแถวใหญ่ชุดนำร่อง ก่อนที่จะรับคนจากแกรมมี่และ LINE ตามกันมาเป็น “ทีมใหญ่” จากคนที่จำใจจากไปร้อยกว่าคนเมื่อปีก่อน คนใหม่ที่รับมาเสริมทีมใหม่ ว่ากันว่า ราว 100 คน มาพร้อมความ “เริ่ด” ที่ลือกันว่า เริ่ดทั้งเม็ดเงินและสวัสดิการ
อ่านเพิ่มเติมข่าว https://www.tvdigitalwatch.com/news-ch3-24-08-62/
@@@ สองผู้บริหารที่นำทัพใหญ่ออกกันถึง 2 คน แมงเมาท์เลยเดากันไม่มีหย่อน ข่าวลือกระฉ่อนทั่วทั้งย่าน วิก 3 พระราม 4 ว่า จะมีฝ่ายบริหาร “ทีมบี๋” ทยอยตามกันไปอีก ไม่รู้ใครเป็นใคร ข่าวลือ ข่าวจริง คงต้องรอดูกัน ทีมงานที่ตามมาจาก LINE อาจรู้สึกใจสลายเพราะคิดถึงสุชาติ ทีมที่ตามวัชรีมาจากแกรมมี่ ก็อาจจะมีคำถามในใจถึงความสั่นคลอน จะมีไหมหนอ
@@@ 18 เม.ย. 63 เป็นวันครบรอบ 1 ปีของการทำงานในตำแหน่ง President ของ “บี๋ –อริยะ” ที่เข้ามาพร้อมความคาดหวังสูง แต่สถานการณ์ผ่านไป 1 ปีผลงานคือการคืนช่อง 2 ช่อง ได้เงินช่วยเหลือมาหลายร้อยล้านบาท แต่ปี 2562 กลายเป็นปีที่กลุ่มช่อง 3 ขาดทุนมากที่สุด ความเด่นของผลงานจึงยังไม่เตะตา
@@@ การลาออกจากตำแหน่งบริหารของ “ประชุม มาลีนนท์” น้องเล็กของตระกูล “มาลีนนท์” ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค.63 วันแรกของเริ่มต้นเข้าสู่ปีที่ 51 ของกลุ่มช่อง 3 “ประชุม” เป็นผู้เริ่มความคิด นำผู้บริหารภายนอกเข้ามาบริหาร ตั้งแต่ “สมประสงค์ บุญยะชัย” จนถึง “อริยะ พนมยงค์” เมื่อ “ประชุม” จากไปด้วยเหตุผลสุขภาพ อะไร ๆ จะเหมือนเดิมต่อไปหรือไม่ พนักงานช่อง 3 คนในวงการทีวีและนักลงทุนก็เลี่ยงที่จะคิดไม่ได้ คงต้องดูการตัดสินใจของครอบครัว “มาลีนนท์” ฝ่ายหญิง ว่าจะตัดสินใจอย่างไร
กลยุทธ์ “เก้าอี้ 4 ขา” ที่ช่อง 8
@@@ ผลจากโควิด -19 ทำให้ทุกธุรกิจ ต้องปรับกลยุทธ์กันขนานใหญ่ กลุ่มอาร์เอส ที่ปีนี้หวังจะมีรายได้จากการจัดคอนเสิร์ต 5 คอนเสิร์ต หลังจากปี 62 มีรายได้จากคอนเสิร์ต แรปเตอร์ และ ดีทูบี ถึง 89.6 ล้านบาท ส่วนธุรกิจทีวี ที่ตั้งเป้าเรตติ้งเติบโตจากรายการมวย ที่ได้ “ไทยไฟท์” เข้ามาเสริมผังและการกลับมารุกด้านละครอีกครั้ง ด้วยละครรสแซ่บ แต่เมื่อมวยยังต่อยไม่ได้ ละครก็พักกอง จึงต้องหันกลับไปเสริมผังรายการด้วย “ซีรีส์อินเดีย” วางลงผังภาคเย็นอีกครั้งด้วยการรับเอา “นาคิน ภาค 3” ภาคต่อที่เคยออนแอร์ที่ช่อง 3 ในยุคซีรีส์อินเดียเฟื่องฟู มาบุกจอในช่วงเย็นแต่ผลตอบรับกลับไม่สูงอย่างที่คิด เรตติ้งวิ่งวนอยู่แถว 0.3 โดยตอนล่าสุด 16 เม.ย.เรตติ้ง 0.307
@@@ ข่อง 8 แจ้งข่าวประชาสัมพันธ์มาว่า กลยุทธ์รับมือโควิด-19 ครั้งนี้ เรียกว่า กลยุทธ์ “เก้าอี้ 4 ขา” ขยายฐานรายได้ กระจายความเสี่ยง
สร้างรายได้แบบค้ำยันซึ่งกันและกัน ด้วยการวางเป้าหมายสร้างรายได้ช่อง 8 ให้แข็งแรงจากศักยภาพภายในอย่างแท้จริง ไม่พึ่งพารายได้ช่องทางใดมากเกินไป เพื่อสร้างการเติบโตตามที่ตั้งไว้ โดยใช้วิธีคิดและมองรายได้จาก 4 ช่องทาง ตามสัดส่วนดังนี้
- ช่องทางการขายมีเดียและสปอนเซอร์ สัดส่วน 50% คือ มีการทำงานเชิงรุก มองลูกค้าเป็นพันธมิตรหลัก ช่วยเหลือและต่อยอดไอเดียการโฆษณาให้ลูกค้า เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าแต่ละรายที่มีโจทย์แตกต่างกัน
- ช่องทางการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์ เป็นการสร้างรายได้จากช่องทางออนไลน์ และพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ 25%
- ช่องทางรายการขายสินค้าของ RS Mall ผ่านรายการต่าง ๆ ของช่อง ในสัดส่วน 20%
- ช่องทางการจัดกิจกรรมอีเวนท์ 5%
@@@ ในส่วนของผังรายการ ช่อง 8 มีการเน้นเรื่องรายการข่าวให้มากขึ้น เพิ่มคอลัมน์ข่าว เช่นรายการ ทันคนทันข่าว, รู้ฟ้าทันฝน ปรับผังรายการข่าวใหม่ ด้วยสัดส่วนเนื้อหาเกี่ยวกับสถานการณ์ไวรัสโควิด-19 ถึง 65% ในรูปแบบการให้ข้อมูลและข้อเท็จจริงในรายการข่าวแต่ละช่วง และมีการถาม-ตอบ ในช่วงข่าว เพื่อสร้างการมีส่วนร่วมของผู้ชม และสกู๊ปข่าวส่วนรายการบันเทิง นอกจากซีรีส์อินเดีย “นาคิน” แล้ว ก็จัด ละครรีรัน “มณีนาคา” และ “สางนางพราย” ลงช่วงไพรม์ไทม์
@@@ แต่การกลับมาเน้นรุกเรื่องข่าวของช่อง 8 ในวันนี้ อาจไม่ราบรื่น เหมือนยุคปี 58-59 เพราะขุมกำลังกระจัดกระจายและคู่แข่งต่างก็แข็งแรงกันมากขึ้นทั้ง ไทยรัฐ อมรินทร์ เนชั่น เวิร์คพอยท์ รวมทั้ง ช่องใหญ่อย่างช่อง 7 และช่อง 3 ก็ไม่ได้ย่อหย่อน การรุกเรื่องข่าวของช่อง 8 คงต้องลุ้นหนัก หลังจากผลักคนดูออกไปด้วยรายการประเภทขายสินค้า
ปัญหาหนักอก ช่อง PPTV
@@@ ฟากช่องเล็ก แต่กระเป๋าหนัก ช่อง PPTV ช่วงต้นเดือนเม.ย. ปูพรมโฆษณา ตอกย้ำแบรนด์ช่อง “ World Class TV” ด้วยสื่อโฆษณาบนรถไฟฟ้า BTS ทั้งในและนอกขบวนรถ โปรโมทรายการข่าว ละคร กีฬา และรายกาวาไรตี้ จัดใหญ่ จัดเต็มมาก แต่โชคไม่ดี มาเจอการระบาดหนักของไวรัสโควิด-19 คนกรุงต้องอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ Work from Home ลดการระบาดเชื้อ สื่อที่วางแผนไว้จึงส่งไม่ค่อยถึงกลุ่มเป้าหมายตามที่วาดหวังเอาไว้
@@@ แถมปัญหาเรื่องการออกอากาศรายการต่างประเทศที่ต้องซื้อลิขสิทธิ์มาแสนแพง เช่น ฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็ยังแก้ปัญหาไม่ได้ รายการกีฬาทุกประเภท ทั่วโลกก็งดการแข่งขันเพราะภัยโควิด-19 เจอทั้งผีซ้ำ ด้ามพลอย พระศุกร์เข้าพระเสาร์แทรก รายได้ลด โฆษณาหด ผู้บริหารอย่าง “สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์” คงไม่สดใส น่าจะเหนื่อยหนักเอาการ รวมทั้งเจ้าของก็คงต้องคิด คิด คิด หนักเช่นกัน
@@@ ช่องเน้นข่าว ทั้งไทยรัฐทีวี และอมรินทร์ทีวี ได้รับอานิสงค์ที่ผู้คนติดตามข่าวสารมากขึ้น เรตติ้งดีขึ้นถ้วนหน้า ปรับรายการข่าวลงมาสู้กันตั้งแต่ 1 ทุ่ม ส่งผลเรตติ้งช่วงหลัง 2 ทุ่ม รายการข่าวมาแรงยิ่งกว่าละครช่อง 3 และช่อง One เลยทีเดียว
@@@ ว่ากันด้วยละครรีรัน พี่ใหญ่อย่างช่อง 7 ที่ไม่ชอบการรีรันละครในช่วงไพรม์ไทม์ ก็ต้องหันมาเล่นด้วย เพราะเลี่ยงไม่ได้ จัดหนักรายแรกด้วยละครเรตติ้งดี ผลงานปี 62 การันตี ทั้ง “ผู้บ่าวอินดี้ ยาหยีอินเตอร์” และ “มธุรสโลกันตร์” ออนแอร์เรื่องแรก ผลตอบรับดี ละครใหม่ช่องอื่น ๆ ยังสู้ไม่ได้เล้ย ในขณะที่ช่อง 3 สู้ด้วย ละครรีรันที่ได้รับความนิยมสูงสุดของปี 62 เช่นกัน “ทองเอก หมอยา ท่าโฉลง” เตรียมลงจอ ส่วนช่อง One จัดละครแรง “ใบไม้ที่ปลิดปลิว” แต่ผลตอบรับยังไม่เปรี้ยงมากนัก
@@@ หากสถานการณ์ยืดเยื้อ แต่ละช่องจะจัดเอาละครเรื่องไหนมารีรันเพิ่มเติม ลองดูตามลิงค์ บทสรุปเรตติ้งละครปี 62 ของแต่ละช่องข้างล่างนี้ได้เลย ตัวเลขผลงานจากเรตติ้ง และแนวละคร น่าจะเป็นปัจจัยหลักในการหยิบละครมารีรันของแต่ละช่องในช่วงนี้
อ่านเพิ่มเติม : เรตติ้งเฉลี่ยละครช่อง 7 ปี 62 https://www.tvdigitalwatch.com/rating-lakorn-ch7-2562/
อ่านเพิ่มเติม : เรตติ้งเฉลี่ยละครช่อง 3 ปี 62 https://www.tvdigitalwatch.com/rating-lakorn-primetime-ch3-2562/
อ่านเพิ่มเติม : เรตติ้งเฉลี่ยละครช่อง One ปี 62 https://www.tvdigitalwatch.com/rating-lakorn-primetime-ch-one-2562/
@@@ แม้จะมีรีรันหลายเรื่อง แต่ช่องหลักๆ ก็ยังพยายามมีละครใหม่ เข้ามาให้ผู้ชมชื่นชูใจกันบ้าง ช่อง 3 จัด “อกเกือบหัก แอบรักคุณสามี” แนวรักโรแมนติก หวานๆ มีนักแสดงเบอร์ต้น “หมาก ปริญ” และ “มิว นิษฐา” ผลงานของผู้จัด “แอน ทองประสม” มาลงจอ จันทร์ อังคาร เริ่ม 21 เม.ย.นี้ ออนแอร์พร้อมประเทศจีน ส่วนช่อง One จัดเต็มกับ ละครใหม่ แนวโรแมนติค คอมเมดี้ “อุ้มรักเกมลวง” มีนักแสดงตัวแม่ “กบ สุวนันท์” “ป้อง ณวัฒน์” “โดนัส มนัสนันท์” ออนแอร์ จันทร์ –พฤหัส เริ่ม 4 พ.ค.นี้
@@@ ส่วนละครที่กำลังออนแอร์เป็นละครใหม่ช่วงนี้ ช่อง 7 ก็มีทั้งละครเย็น “คุณชายตำระเบิด” ที่ทำเรตติ้งมาดีพร้อมคู่แข่งช่อง One “มงกุฎดอกหญ้า” ส่วนละคร ไพรม์ไทม์ ช่อง 7 “ตะวันอาบดาว” และ ช่อง 3 “ฟากฟ้าคีรีดาว”
@@@ ช่อง Mono คุมคลังหนังต่างประเทศ จัดหนัก วนเวียนมาออนแอร์ต่อเนื่อง มีทั้งหนังดังฮอลลีวู๊ด หนังจีน เกาหลี บางวันเรตติ้งดี แซงหน้าหลายรายการ บางวันก็แป๊กเข่นกัน ว่ากันไปเป็นเรื่องๆ ล่าสุดหนังจีน จัดหนังตระกูล “เฉินหลง” 5 วันรวด เรื่องล่าสุด “ใหญ่ ปล้น ฟัด” ทำเรตติ้งไปได้ 3.464
@@@ ช่วงนี้ผู้ชมทีวีดิจิทัล คงต้องอดทนดูรายการรีรันที่เกลื่อนจอกันไปก่อน แม้จะเป็นการอยู่บ้าน หยุดเชื้อ เพื่อชาติ จำนวนผู้ชมเพิ่มขึ้นแต่เม็ดเงินโฆษณากลับสวนทาง ช่วงสถานการณ์ยากลำบากทุกหย่อมหญ้า เชื่อว่าแต่ละช่องมีทางเลือกไม่มาก คงเก็บไม้เด็ดไว้สู้กันหลังสถานการณ์คลี่คลาย ขอเอาใจช่วยทุกฝ่าย เดินหน้า อดทน สู้กับวิกฤตโควิด-19 ฝ่าฟันไปด้วยกัน