บริษัท อาร์ เอส แจ้งผลประกอบการของปี 2562 ทั้งปี ต่อตลาดหลักทรัพย์ พบว่า รายได้รวมของบริษัททั้งปี อยู่ที่ 3,611.1 ล้านบาท ลดลง 215.5 ล้านบาท หรือ 5.6% เมื่อเทียบกับปี 2561 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 3,826.7 ล้านบาท โดยกลุ่มธุรกิจสื่อ ที่รวมถึงธุรกิจทีวีดิจิทัลด้วยมีรายได้ลดลงมากที่สุด มีสาเหตุมาจากสภาวะเศรษฐกิจ การแข่งขันรุนแรง และเม็ดเงินโฆษณาลดลง
รายได้รวมของธุรกิจสื่อ ที่รวมถึงธุรกิจทีวีดิจิทัล ช่อง 8 ปี 2562 พบว่า มีรายได้อยู่ที่ 1,069.2 ล้านบาท ลดลง 275.4 ล้านบาท หรือ 20.5% จากปี 2561 ที่มีรายได้ส่วนนี้อยู่ที่ 1,344.2 ล้านบาท โดยอาร์ เอส ระบุว่า เรตติ้งช่อง 8 เริ่มมีการปรับตัวดีขึ้นในช่วงครึ่งปีหลังของปี 2562 จากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของละครไทย และซีรีส์ไทย เรื่อง “เดอะซีรีส์ รักลวงหลอน” และกลุ่มกีฬามวยไทย “ 8 มวยไทย ซุปแปอร์แชมป์ และ “มวยฮาร์ดคอร์ มวยพันธ์ดุ”
ส่วนรายได้ธุรกิจสื่อวิทยุนั้น อาร์ เอส มีคลื่น COOL Fahrenhiet ที่ได้รับความนิยมสูงในกลุ่ม Easy Listening และมีการจัดกิจกรรมต่อเนื่อง ทำให้โดยรวมสื่อวิทยุยังคงทำกำไรได้ดี
รายได้ Shopping ลดลง 5.4%
รายได้หลักของอาร์ เอส ยังคงเป็นธุรกิจพาณิชย์ ขายสินค้าผ่านช่องสื่อของทาง ช่อง 8 ทีวีดิจิทัล ทีวีดาวเทียม วิทยุ สื่อออนไลน์ และร้าน Modern Trade ทั่วประเทศ โดยในปี 2562 ได้เป็นพันธมิตรกับช่องเวิร์คพอยท์ และไทยรัฐทีวี ในการขายสินค้า และเริ่มขายสินค้าผ่านช่องอมรินทร์ทีวีในเดือนก.พ.ปี 2563 โดยปี 2562 มีรายได้ส่วนนี้อยู่ที่ 2,012.4 ล้านบาท ลดลง 114.4 ล้านบาท หรือ 5.4% จากปี 2561 มีรายได้อยู่ที่ 2,126.8 ล้านบาท เป็นผลมาจากสภาะเศรษฐกิจไทยที่ชะลอตัว ทำให้ผู้บริโภคชะลอการตัดสินใจสั่งซื้อสินค้า
ธุรกิจเพลงเติบโตสูงสุด รายได้เพิ่ม 49.1%
รายได้กลุ่มธุรกิจเพลง มีรายได้อยู่ที่ 529.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 174.3 ล้านบาท หรือ 49.1% จากปี 2561 มีรายได้อยู่ที่ 355.2 ล้านบาท มาจากรายได้จากการฟังเพลงออนไลน์ และการขายเหมากับพันธมิตรรายใหม่ ทั้ง Facebook Joox และ AIS รวมถึงการสร้างรายได้เพิ่มจากการที่ศิลปินสามารรถวางแผน สร้างผลงานได้ด้วยตัวเอง อีกทั้งยังมีการจัดคอนเสิร์ต โดยเฉพาะในไตรมาส 3 และ 4 มีรายได้รวม 89.6 ล้านบาท จากการจัดคอนเสิร์ต “Raptor Evolution 25 ปี ไม่มีเกรงใจ” และ “D2B Infinity Concert 2019”
ทั้งนี้อาร์ เอส รายงานว่า ในปี 2563 นี้ บริษัทจะยังคงมุ่งเน้นดำเนินธุรกิจรูปแบบ Entertainmerce เข้าสู่ธุรกิจพาณิชย์อย่างเต็มตัว มีรูปแบบความบันเทิงในการนำเสนอสินค้า ที่แตกต่าง เข้าถึงกลุ่มลูกค้าทุกแพลตฟอร์มผ่านแบรนด์ RS Mall และทำช่องทางออนไลน์ในแบรนด์ COOL Shop และยังมีแผนนำเสนอบริการอื่นๆ เช่นท่องเที่ยว อีกด้วย
ส่วนช่อง 8 ปี 2563 จะมีมวย “Thai Fight” เข้ามาเสริมผังเพื่อเป้าหมายเป็นช่องมวยอันดับ 1 โดยช่อง 8 ยังคงเป็นช่องทางสำคัญของธุรกิจขายสินค้าของบริษัท
ในขณะที่ธุรกิจคอนเสิร์ต ในปี 2563 นี้จะมีการจัดคอนเสิร์ตทั้งหมด 5 คอนเสิร์ต ที่คาดว่าจะเป็นส่วนสำคัญในการสร้างรายได้และกำไรให้บริษัทตลอดทั้งปี