ช่อง 8 ของกลุ่มอาร์เอส เป็นต้นแบบของการทำธุรกิจทีวี ที่เอามาเป็นส่วนหนึ่งของช่องทางในธุรกิจทีวีช็อปปิ้ง ด้วยการประกาศชัดเจนว่า รายได้หลักของกลุ่มอาร์เอส คือธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง
การขายสินค้าทางทีวีมีความสัมพันธ์กัน เมื่อรายการได้รับความนิยม เรตติ้งดี ย่อมมีผลดีต่อการดึงทราฟฟิคคนเข้ามาช่อง เปิดช่องทางการเห็นสินค้าได้มากขึ้น ทำให้ช่อง 8 ต้องใช้กลยุทธ์วางคอนเทนต์เพื่อดึงเรตติ้งช่องด้วยเช่นกัน
ช่อง 8 วางคอนเทนต์หลักของช่องไว้ 4 หมวด ชัดเจน ได้แก่ ข่าว, ซีรี่ส์อินเดีย, มวย, และละครไทย และเริ่มขยายรายการวาไรตี้เพิ่มมากขึ้น โดยทุกช่วงจะมีการแทรกการขายสินค้าไว้ตลอดทั้งวัน ช่วงที่มีเรตติ้งสูงสุดของช่องในช่วงต้นปีคือ ซีรี่ส์อินเดียชุด “หนุมาน สงครามมหาเทพ” ที่ออกอากาศทั้งในช่วงเย็น และไพรม์ไทม์ ดังจะเห็นได้จากเรตติ้งเฉลี่ยช่องที่สูงที่สุดของปี 2561 นี้ คือช่วงเดือนม.ค. และ ก.พ.
เรตติ้งดีมีผลทำให้ ผลประกอบการไตรมาส 1 ต่อไปยังไตรมาส 2 ของปีนี้ เป็น 2 ไตรมาสที่อาร์เอส เติบโตสูงสุดมีรายได้ถึง 969 ล้านบาท 955 ล้านบาท โดยมีกำไรสุทธิ 102 ล้านบาท และ 172 ล้านบาท โดยที่รายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจโฮมช็อปปิ้ง
แต่หลังจากนั้น กระแสซีรี่ส์อินเดียตกลง อีกทั้งมีการปรับเปลี่ยนรายการถ่ายทอดสดมวยไทยรายการ แม็กซ์ มวยไทย ออกไปอยู่ช่องนาว26 โดยที่ช่อง 8 จัดรายการมวยไทยขึ้นมาใหม่ทดแทน มีเรตติ้งเฉลี่ยประมาณ 1 กว่า ยังไม่แรงเท่ารายการเดิม
ช่วงที่เรตติ้งเฉลี่ยช่องลดลงมากสุดของปีนี้ คือเดือนส.ค. ต่อเนื่องมาก.ย. จนหล่นไปอยู่ในอันดับ 7 เป็นช่วงที่ช่อง 8 ปรับกลยุทธ์เริ่มเอาละครไทยรสจัด มาลงผังในช่วงละครเย็น เริ่มด้วยเรื่อง “พยัคฆา” สามารถไต่ระดับสร้างเรตติ้งฐานคนดูละคร โดยเฉพาะฐานผู้ชมในต่างจังหวัด โดยตอนจบได้เรตติ้งสูงถึง 2.3 ส่งต่อละคร “สาปกระสือ” จนกลายเป็นละครไทยที่มีเรตติ้งสูงสุดของช่อง 8 ในปีนี้ ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 2.163 ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยช่องเริ่มฟื้นตัวกลับมาอีกครั้ง
จากผลประกอบการไตรมาส 3/2561 ในช่วงที่เรตติ้งตกลงมากที่สุดของปีนี้ อาร์เอสมีรายได้จากการขายและให้บริการรวม 837.3 ล้านบาท มาจากโฮมช็อปปิ้งถึง 495.5 ล้านบาท ในขณะที่รายได้จากค่าโฆษณาในธุรกิจทีวีดิจิทัลอยู่ที่ 300 ล้านบาท ลดลงถึง 35% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า
หลังจากที่ทั้งปีของปีนี้ เป็นช่วงที่ช่อง 8 ค้นหาตัวเอง จนได้พบว่า ละครไทย เป็นคอนเทนต์สำคัญที่จะช่วยดึงเรตติ้ง ทำให้ประกาศแผนใหม่ว่า ปีหน้าจะจัดละครไทยชุดใหม่ ลงผังเพิ่มเติมในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เพื่อเดินหน้าเรียกความนิยมแฟนละครไทยต่อเนื่อง พร้อมลุยรายการข่าวเข้าถึงผู้ชมมากขึ้น
มาดูกันว่าแผนใหม่ปีหน้าจะมีผลตอบรับ และผลประกอบการอย่างไร
