ช่อง 3 ปี 2561  “บุพเพ” คือปรากฏการณ์ แต่ปีหน้าจะฝ่าฟันสู่ฝั่งฝันด้วยละครเรื่องใด

ผลงานทีวีดิจิทัลประจำปี

 

เรตติ้งเฉลี่ยทั้ง 11 เดือนช่อง 3 ของปี 2561 เทียบกับ 2560  ลดลงน้อยมาก จาก 1.355 มาอยู่ที่ 1.352  เมื่อดูเรตติ้งรายเดือนของช่อง 3 ในปี 2561 ช่วงที่เรตติ้งต่ำสุดคือ ช่วงต้นปี เดือนม.ค.ได้เรตติ้งเฉลี่ยช่องอยู่ที่ 1.124  จนเริ่มมาดีขึ้นในปลายก.พ.ที่ ละคร “บุพเพสันนิวาส” เริ่มออกอากาศ จนมาพีคสุดที่เดือนมี.ค.ที่เรตติ้งเฉลี่ยช่องขึ้นมาแซงช่อง 7 เป็นอันดับ 1 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 1.856  และเมื่อจัดวาง “บุพเพสันนิวาส” ลงรีรันช่วงละครเย็นอีกรอบ ก็ได้ช่วยพยุงเรตติ้งช่องแต่ละเดือนสูงกว่าปี 2560  ยาวไปถึงไตรมาส 3 ของปี

หลังจากหมดอิทธิพลของ “บุพเพสันนิวาส” เรตติ้งเฉลี่ยช่อง 3 ปีนี้ ก็เริ่มกลับเข้าสู่สถานการณ์เดิมเมื่อต้นปี เมื่อเรตติ้งเฉลี่ยเดือนล่าสุด พ.ย.61 อยู่ที่ 1.127 ใกล้เคียงกับช่วงที่เรตติ้งเฉลี่ยต่ำที่สุดในเดือนม.ค.นั่นเอง

เนื่องจากคอนเทนต์หลักของช่อง 3 ยังคงเป็นละคร ในช่วงปลายปีเมื่อละครใหม่ช่วงไพรม์ไทม์ที่ออกอากาศทำผลงานไม่ได้ดีนัก จึงมีผลทำให้เรตติ้งเฉลี่ยช่องลดลงต่อเนื่อง แต่ยังได้เรตติ้งของภาพรวมรายการในช่วง non prime  มาช่วยพยุงช่องโดยเฉพาะจากละครรีรันบ่าย, ละครเช้า และรายการข่าวและวาไรตี้บางส่วน ยังคงทำให้ช่อง 3 ยืนหยัดรักษาตำแหน่งอันดับ 2 ไว้ได้

อย่างไรก็ตามเรตติ้งที่ได้เพิ่มขึ้นในแต่ละเดือนยังไม่สัมพันธ์กับรายได้ที่เกิดขึ้นโดยรวมของช่อง 3 เห็นได้จากผลประกอบการกลุ่มบีอีซีเวิลด์ใน 3 ไตรมาสแรกของปี 2561 มีรายได้รวม 7,939.55 ล้านบาท ขาดทุน -70.26 ล้านบาท เนื่องจากมีรายได้จากค่าโฆษณาลดลง และยังมีแนวโน้มว่าผลประกอบการรวมทั้งปี น่าจะขาดทุนเป็นปีแรกด้วย ซึ่งมีรายงานข่าวว่าปีหน้ากลุ่มช่อง 3 จะมีการปรับโครงสร้างการบริหารงานครั้งใหญ่ให้สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงด้วย

คีย์หลักที่จะทำให้ช่อง 3 มีเรตติ้งสูงขึ้นจึงยังคงขึ้นกับละครชุดใหม่ๆในปีหน้า จะมีละครเรื่องใด สร้างปรากฏการณ์ได้เช่นเดียวกับ “บุพเพสันนิวาส” หรือไม่ และภายในการบริหารงานโครงสร้างใหม่จะสามารถฟื้นรายได้ให้กับกลุ่มช่อง 3 ได้อย่างไร

Tagged