ผ่านไป 3 ไตรมาส 9 เดือนแรกของปี 2563 ปีที่นอกเหนือจากทุกธุรกิจต้องสู้กับวิกฤตเศรษฐกิจแล้ว ยังได้รับผลกระทบอย่างหนักจากการระบาดของไวรัสโควิด -19 กระหน่ำซ้ำเติม ธุรกิจทีวีดิจิทัลกระเทือนหนัก รายได้หลักจากค่าโฆษณาลดลงอย่างมาก ทุกช่องต้องงัดทุกกลยุทธ์หาช่องทางสร้างรายได้ ลดต้นทุนค่าใช้จ่าย จนมีการลดพนักงานในสายธุรกิจทีวีจำนวนมาก
มาดูผลงานความนิยมของ 18 ช่องทีวีดิจิทัลรายไตรมาส ว่าช่องไหนมีผลงานพัฒนาการสูงสุด
ไตรมาสที่ 1 (ม.ค-มี.ค.)
ไฮไลท์ที่กลุ่มช่อง TOP10 สามารถแบ่งออกได้เป็น 4 กลุ่ม เริ่มจากกลุ่มแรก กลุ่มผู้นำ อันดับ 1-3 เป็น 3 อันดับที่ไม่มีการเปลี่ยนแปลงของช่อง 7 อันดับ 1 ช่อง 3 อันดับ 2 และช่อง Mono อันดับ 3
กลุ่มที่ 2 เป็นที่มีการแข่งขันสูงระหว่าง 4 ช่อง ที่พร้อมจะสลับตำแหน่งขึ้นลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับผลงานความนิยมในแต่ละช่วง ได้แก่ ช่อง เวิร์คพอยท์ ช่อง One ช่องอมรินทร์ทีวี และช่องไทยรัฐทีวี โดยในไตรมาส 1 ช่องเวิร์คพอยท์อยู่อันดับ 4 ช่อง One อันดับ 5 และช่องไทยรัฐทีวี และช่องอมรินทร์ทีวี อยู่ในอันดับ 6 และ 7
ช่อง 8 และช่องเนชั่นทีวี เป็น 2 ช่องในกลุ่มที่ 3 มีเรตติ้งใกล้เคียง และกลุ่มที่ 4 กลุ่มช่องแย่งชิงอันดับ 10 ระหว่างช่อง 9 ช่อง PPTV และช่อง GMM25 ซึ่งในไตรมาสแรกนี้ ช่อง 9 ยึดอันดับ 10 ไว้ได้
ไตรมาสที่ 2 (เม.ย.-มิ.ย.)
การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 การประกาศมาตรการ Lock down ของทางรัฐบาลในช่วงเดือนมี.ค. ทำให้ประชาชนต้องกักตัวอยู่บ้าน #อยู่บ้านหยุดเชื้อเพื่อชาติ มีส่วนทำให้ยอดผู้ชมทีวีดิจิทัลเพิ่มขึ้น แม้ว่าจะเริ่มมีมาตรการผ่อนคลายเป็นระยะต่อมาในช่วงเดือนพ.ค.-มิ.ย. เพื่อคลายปัญหาทางเศรษฐกิจ จะพบว่าช่วงไตรมาส 2 นี้ หลายช่องทีวีดิจิทัลเรตติ้งดีขึ้นในเดือนเม.ย.และพ.ค. แม้ว่าหลายช่องจะจัดรายการรีรันลงผังเพื่อเป็นการลดต้นทุน แต่ตัวเลขผู้ชมและเรตติ้งเพิ่มขึ้น ไม่ได้ส่งผลดีในแง่ธุรกิจมากนัก เพราะรายได้จากโฆษณาลดลง เนื่องจากเป็นช่วงที่คนลดการใช้จ่าย เนื่องจากรายได้ลดลง เจ้าของสินค้าก็ลดการโฆษณาลงเช่นกัน
สำหรับช่องที่ได้เรตติ้งขึ้นมีตั้งแต่ช่อง 7 ช่อง 3 ช่องเวิร์คพอยท์ ช่องไทยรัฐทีวีและอมรินทร์ทีวี รวมถึงช่อง One โดยพบว่า กลุ่มช่องอันดับที่ 4-7 มีการเปลี่ยนแปลงอันดับที่ช่อง One แม้เรตติ้งดีขึ้นแต่เพิ่มไม่สูงเท่ากับช่องไทยรัฐทีวี ทำให้ลงมาอยู่อันดับ 5
ช่วงไตรมาสนี้ข่าวที่ได้รับความสนใจมากที่สุดได้แก่ การเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” เด็กหญิงวัย 3 ขวบ ในจังหวัดมุกดาหาร ข่าวเริ่มเกิดขึ้นในเดือนพ.ค.และลากยาวมาจนถึงปัจจุบัน ยังไม่สามารถจับคนร้ายได้ ซึ่งช่องอมรินทร์ และช่องไทยรัฐเป็น 2 ช่องหลักที่เกาะติดข่าวนี้อย่างต่อเนื่อง จนได้รับความนิยมดีขึ้น รายการข่าวในช่วงไพรม์ไทม์มีเรตติ้งแซงละครหลัง 2 ทุ่ม
ส่วนอันดับ 10 ไตรมาสที่ 2 นี้ตกเป็นของช่อง GMM25 ที่เรตติ้งลดลงน้อยกว่าช่อง 9 และช่อง PPTV
ไตรมาสนี้ยังเห็นการเปลี่ยนในช่อง NBT ได้รับความนิยมสูงขึ้นมีเรตติ้งอยู่ในอันดับ 15 จากปกติอยู่ในอันดับ 17-18 เนื่องจากเป็นช่องศูนย์กลางการถ่ายทอดการแถลงข่าวการระบาดโควิด-19
ไตรมาส 3 (ก.ค.-ก.ย.)
ช่วงผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ และโควิดมีผลชัดเจน ต่อทีวีดิจิทัล มีหลายช่องเริ่มกลับมาจัดรายการใหม่ลงผังรายการบ้างแล้ว แต่รายการข่าวได้รับความนิยมสูงมากขึ้น โดยเฉพาะข่าว “น้องชมพู่” เกิดดราม่า สร้างชื่อเสียงให้กับคนที่เกี่ยวข้องในหมู่บ้าน โดยเฉพาะ “ลุงพล” การเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนได้แก่ ความนิยมช่องอมรินทร์ทีวีเติบโตสูงมากที่สุด รายการข่าวหลักของช่อง “ทุบโต๊ะข่าว” ทั้ง 2 ช่วงเวลาไพรม์ไทม์เรตติ้งสูงกว่าละครบางช่อง ไตรมาสที่ 3 นี้ช่องอมรินทร์ทีวี ขยับขึ้นมาอยู่ในอันดับ 4 เรตติ้งเฉลี่ย 0.696
กลุ่มช่องอันดับ 4-7 มีการแข่งขันสูง แต่ช่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดเป็นช่องอมรินทร์ทีวี ส่วนช่องเวิร์คพอยท์ และช่องไทยรัฐทีวีเรตติ้งลดลงเล็กน้อย ในขณะที่ช่อง One เรตติ้งเพิ่มสูงขึ้นแต่อันดับลดลงมาอยู่อันดับที่ 7 รายการหลักของช่อง One ที่สร้างเรตติ้งสูงสุดได้แก่รายการเวลา 18.00-20.00น.
อันดับ 1-3 ไม่เปลี่ยนแปลง เป็นของช่อง 7 ช่อง 3 และช่อง Mono แต่เรตติ้งเฉลี่ยของทั้ง 3 ช่องลดลงทั้งหมด
สำหรับอันดับ 10 ไตรมาส 3 นี้ ตกเป็นของช่อง PPTV แม้ว่าเรตติ้งเฉลี่ยลดลง แต่ลดลงน้อยกว่าช่อง 9 และ ช่อง GMM25
เรตติ้ง 9 เดือนแรก ปี 2563
สรุปภาพรวมเรตติ้ง 9 เดือนแรกของปี 2563 พร้อมสัดส่วนแบ่งเรตติ้งในรูปแบบ Market share % จะพบว่า ช่อง 7 เรตติ้งอันดับ 1 มี Share สูงถึง 23.96% อันดับ 2 ช่อง 3 ได้ 15.56% สองช่องใหญ่ช่องดั้งเดิมนี้รวมกัน มี share 39.52%
อันดับ 3 ช่อง Mono มี Share 11.89% รวมช่องอันดับ 1-3 มีส่วนแบ่งสูงถึง 51.41% มากกว่าครึ่งหนึ่งของช่องทั้งหมด ที่เหลือ 15 ช่อง
สำหรับกลุ่มช่องอันดับ 4-7 พบว่า อันดับ 4 ช่องเวิร์คพอยท์ อันดับ 5 ช่องไทยรัฐทีวี อันดับ 6 ช่อง One และอันดับ 7 ช่องอมรินทร์ทีวี มี Share ใกล้เคียงสูสีกัน 8.44% 7.93% 7.82% และ 7.61% ตามลำดับ
ส่วนอันดับ 10 เป็นช่อง 9 Share 2.17% ใกล้เคียงกับช่อง PPTV และช่อง GMM25 Share 2.07% และ 2.06%