เปิดมาต้นปี 2562 การแย่งชิงตำแหน่งสุดท้าย อันดับ 10 ของกลุ่มท็อปเท็น กำลังเป็นไปอย่างสูสี ระหว่าง ช่องพีพีทีวี ช่องทุนหนา มาแรง และช่องนาว 26
นาว 26 ได้ปรับกลยุทธ์ จากช่องสารคดี มาเป็นช่องรวบรวมการถ่ายทอดสด มวยไทย หลากหลายสนาม ในทุกวัน ในช่วงเย็น และช่วงไพรม์ไทม์ ตั้งแต่ปี 2561 ดันเรตติ้งช่องขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปีที่แล้ว ต่อเนื่องมาจนถึงต้นปีนี้
ในขณะที่พีพีทีวี ด้วยนโยบายใหม่ทุ่มทุนครั้งใหญ่ ปีนี้ประกาศใช้เงินถึงประมาณ 2,000 ล้านบาท ซื้อคอนเทนต์กีฬาต่างประเทศ โดยเป็นการลงเฉพาะละครไทย 500 ล้านบาท และยังซื้อคอนเทนต์ดังจากช่องใหญ่มาลงผัง
ในขณะที่ผังเดิมมีรายการถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกต่างประเทศเป็นรายการหลักอยู่แล้ว เมื่อมีรายการใหญ่เข้ามา เรตติ้งเฉลี่ยช่องจึงค่อยๆดีขึ้นตามลำดับ เปิดศักราชปี 2562 พีพีทีวีสามารถขึ้นอยู่ในอันดับ 10 ในตารางของเรตติ้งประจำสัปดาห์ได้แล้วถึง 2 สัปดาห์ติดกัน นำหน้านาว 26 ไปเล็กน้อย โดยสัปดาห์ล่าสุดอยู่ที่ 0.200 และ 0.191
นาว 26 เป็นผู้ครองตำแหน่งท็อปเท็นในช่วงเดือนธ.ค.2561 ได้เรตติ้งเฉลี่ย 0.211 ส่วนพีพีทีวีอยู่ที่อันดับ 11 เรตติ้งเฉลี่ย 0.202
ในขณะที่เรตติ้งรายปี 2561 ช่องนาว 26 ยังอยู่ที่อันดับ 11 เรตติ้ง 0.175 แพ้ช่อง 9 อสมท. ในอันดับ 10 เรตติ้ง 0.189 ส่วนพีพีทีวี อยู่ที่อันดับ 12 เรตติ้ง 0.164
เมื่อดูจากผลงานรายการหลักของทั้ง 2 ช่องในรอบสัปดาห์ (14-20 ม.ค.) ที่ผ่านมา จะพบว่า รายการถ่ายทอดสดมวย ครองผังรายการช่องนาว 26 ที่ได้รับความนิยมสูงสุดของช่องทั้งสัปดาห์ ใน 10 อันดับ เป็นรายการมวยถึง 8 อันดับ โดยอีก 2 รายการที่เหลือนั้นคือ รายการสารคดี
ทั้งนี้รายการมวย ทำเรตติ้งเฉลี่ยได้เกิน 1 เป็นส่วนใหญ่ สูงสุด คือเดอะแชมป์เปี้ยน มวยไทยตัดเชือก ช่วงที่ 1 ที่ออกอากาศทุกวันเสาร์ ทำเรตติ้งสูงถึง 1.929
ส่วนพีพีทีวี รายการที่ทำเรตติ้งสูงสุด ยังเป็นการถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก คู่ลิเวอร์พูล -คริสตัลพาเลซ ด้วยพลังแฟนบอลลิเวอร์พูลในเมืองไทย ก็ดันเรตติ้งรายการนี้ไปอยู่ที่ 1.580 ตามมาด้วย รายการ “กิ๊ก ดู๋” และ “ The Vocie” 2 รายการใหญ่จากช่อง 7 และช่อง 3
นอกนั้นรายการทำเรตติ้งสูงสุดของช่องพีพีทีวี เป็นรายการที่เกี่ยวเนื่องกับฟุตบอลเป็นส่วนใหญ่ จะมีที่โดดเด่นแทรกขึ้นมาคือ รายการข่าว “เข้มข่าวค่ำ” ที่มีฐานผู้ชมหนาแน่นมานาน
ความแตกต่างอีกอย่างหนึ่งของทั้ง 2 ช่องคือ ช่องนาว 26 ได้ฐานผู้ชมในกลุ่มต่างจังหวัด ในฐานะแฟนมวยทั่วประเทศเป็นหลัก ในขณะที่พีพีทีวี ได้กลุ่มคนกรุงเทพมากกว่าต่างจังหวัด
อย่างไรก็ตามทั้ง 2 ช่อง ก็ยังมีคู่แข่งในระดับเดียวกันอย่างช่อง 9 อสมท. ที่มีรายการข่าว เป็นหลัก มีเรตติ้งสูสีกันมาตลอด พร้อมจะเข้ามาช่วงชิงอันดับ 10 ได้ตลอด
นอกจากนี้เป้าหมายของพีพีทีวี ที่ประกาศไว้ ไม่ได้หยุดแค่อันดับ 10 แต่ต้องการจะเข้าสู่ท็อป 5 ให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่กว่าจะไปถึงจุดนั้น ต้องฝ่าด่านชิงอันดับ 10 ไปให้ได้ก่อน
สัปดาห์หน้า มาดูกันว่า ใครจะเข้าวินชิงตำแหน่งอันดับ 10 ได้สำเร็จ