ข่าวประชาสัมพันธ์
การแถลงข่าวธุรกิจอาร์เอส ปี 2020 ภายใต้การนำของ “เฮียฮ้อ–สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท อาร์เอส จำกัด (มหาชน) เมื่อเร็วๆนี้ ในส่วนของธุรกิจทีวีดิจิทัลช่อง 8 นั้น “เฮียฮ้อ” ได้ประกาศว่าปีนี้ ธุรกิจทีวีจะลงทุน 600 ล้านบาท กับ 3 กลุ่มคอนเทนต์หลัก ละคร ข่าว และกีฬา และคาดหวังรายได้ทั้งปี 1,250 ล้านบาท
เฮียฮ้อ เปิดเผยว่า การแข่งขันทีวีดิจิตอลปีนี้ คอนเทนต์กลยุทธ์หลักของช่อง 8 คือ ละคร ข่าว กีฬา ในพื้นที่ส่วนอื่น จะมองเป็นส่วนไปเติมเต็มแพ็คเกจ ที่ใช้ประโยชน์จากนาทีโฆษณาใน 3 ส่วนนี้เป็นหลัก ซึ่งเชื่อมั่นว่า ปีนี้ละครจะมีการเติบโตสูง ในแง่เรตติ้ง จะมีการปรับโครงสร้างหลายส่วน เพื่อให้เรตติ้งดีขึ้น โดยใช้เงินลงทุน 600 ล้านบาทต่อปี
ใช้กลยุทธ์ผลิตละคร ขายได้เงินก่อน แล้วค่อยสร้าง
“ละคร ของเราจะแตกต่างชัดเจน ด้วยการวางแผนไทน์อินเข้าไปในละคร ปีนี้คือขายได้เงินก่อน แล้วสร้าง ไม่ได้ขายแค่สปอร์ตอย่างเดียว เราจะคิดพร้อมลูกค้าว่า ละครแนวนี้สปอนเซอร์รายไหนที่สนใจ ดาราคนนี้เป็นพรีเซ็นเตอร์อะไร ซึ่งทำให้รายได้ละครดีขึ้น เรื่องแรกที่ทำคือ “เรยา” ซึ่งประสบความสำเร็จดี ปีนี้วางละครไว้ 8-10 เรื่อง และเสริมผู้จัด นักแสดงแม่เหล็กร่วมงานโปรเจ็คใหญ่มากขึ้น”
ส่วนรายการกีฬานั้น ปีนี้มีการดึงพาร์ทเนอร์ “ไทยไฟท์”เข้ามาร่วมด้วย โดยจะเริ่มเดือนกุมภาพันธ์นี้ และจะมีรายการอื่นๆ ของคุณนพพร วาทินมาด้วย
ด้านรายการข่าว ก็จะมีการปรับทัพผู้ประกาศข่าว โดยเน้นคอนเซ็ปต์ “ข่าวช่อง 8 เข้าใจง่าย เชื่อถือได้” โดยมีทีมข่าวมืออาชีพ ในการลงพื้นที่จริง เพื่อเจาะลึกถึงข่าวที่อยู่ในความสนใจ
ซึ่งทั้งหมดนี้ เฮียฮ้อ คาดว่ารายได้ของช่อง 8 ทั้งปีจะอยู่ที่ 1,250 ล้านบาท
จากข้อมูลที่บริษัท อาร์ เอส เทเลวิชั่น จำกัด เจ้าของใบอนุญาตประกอบกิจการช่อง 8 ได้แจ้งไว้กับกสทช.ตั้งแต่เริ่มประกอบการพบว่า ในปี 2557 มีรายได้อยู่ที่ 473 ล้านบาท ปี 2558 รายได้ 818 ล้านบาท ปี 2559 รายได้ 1,152 ล้านบาท ปี 2560 มีรายได้ 1,348 ล้านบาท และปี 2561 มีรายได้ 1,397 ล้านบาท ส่วนปี 2562 ยังไม่มีรายงานเข้ามา
ทั้ง 3 กลุ่มคอนเทนต์นี้เป็น 3 กลุ่มหลักของช่อง 8 ตั้งแต่ยุคแรกที่เข้าสู่ระบบทีวีดิจิทัลโดยเฉพาะในช่วง 3 ปีแรกที่ทำให้ช่อง 8 ขึ้นไปอยู่ในอันดับ 5 และเริ่มไปไฮไลท์ที่ซีรีส์อินเดียในปี 2560 และเข้าสู่ธุรกิจ TV Shopping อย่างเต็มตัว จนมีผลทำให้ความนิยมลดลงตั้งแต่ปลายปี 2561 และในปี 2562 บริษัท อาร์ เอส ก็ประกาศย้ายหมวดการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์จากกลุ่มมีเดีย มาเป็นกลุ่มธุรกิจพาณิชย์อย่างเป็นทางการในวันที่ 29 มี.ค. 2562
https://www.tvdigitalwatch.com/news-nbtc-tv-performance
ในส่วนภาพรวมธุรกิจของกลุ่มอาร์เอสนั้น มีการประกาศคาดหวังรายได้รวมทั้งปี 5,250 ล้านบาท จากการประกาศกลยุทธ์“Entertainmerce” (เอ็นเตอร์เทนเมิร์ซ) ซึ่งเป็นการนำ “Entertainment” อย่าง ธุรกิจเพลง ธุรกิจวิทยุ ธุรกิจสื่อ ช่อง 8 มาผนึกกับ “Commerce” อย่าง RS Mall (อาร์เอส มอลล์) เข้าด้วยกัน โดยรายได้ 60% จะมาจากธุรกิจพาณิชย์ แต่ธุรกิจบันเทิง สื่อ เพลง รวมกันมีรายได้ 40%
ด้านธุรกิจวิทยุ คาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 300 ล้านบาท โดยมี “คูลฟาเรนไฮต์” เป็นสื่อวิทยุหลักในการทำกิจกรรมต่างๆ
ส่วนธุรกิจเพลง คาดรายได้ทั้งปีที่ 500 ล้านบาท จากการจัดคอนเสิร์ตประมาณ 5-6 คอนเสิร์ต โดยจับกระแสคอนเสิร์ตยุค 90 หรือ ศิลปินในความทรงจำ ที่เป็นที่ต้องการของตลาด มารียูเนี่ยน พร้อมทั้งปีนี้จะผลักดันให้มีศิลปินใหม่ และแนวเพลงใหม่เกิดขึ้นด้วย