บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง เป็นผู้รับใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัล ช่องพีพีทีวี ได้รายงานผลประกอบการในปี 2561 กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ว่า มีรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 495.25 ล้านบาท แต่ยังขาดทุนถึง 1,837.36 ล้านบาท
พีพีทีวีเป็นช่องทุนหนาของ “นายแพทย์ปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” แชมป์มหาเศรษฐีอันดับ 8 ของประเทศไทย จากการจัดอันดับของนิตยสารฟอร์บส์ ปี 2562 จากรายการที่แจ้งผลประกอบการไว้ พีพีทีวียังคงมีสภาพขาดทุนอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เริ่มกิจการทีวีดิจิทัล แต่ในปี 2561 มีการขาดทุนลดลง 9.43% จากปี 2560 ที่ขาดทุนถึง 2,028.76 ล้านบาท ในส่วนของรายได้นั้น ก็มีรายได้รวมปี 2561 ดีขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 317.16 ล้านบาท ถึง 56.15%
ในปีแรก ปี 2557 ของการออนแอร์ในระบบทีวีดิจิทัล พีพีทีวีมียอดรายได้อยู่ที่ 55.28 ล้านบาท ขาดทุน1,102.61 ล้านบาท ส่วนปี 2558 มีรายได้ 195.91 ล้านบาท และขาดทุน 1,799.18 ล้านบาท และในปี 2559 มีรายได้ 232.62 ล้านบาท ขาดทุน 1,996.37 ล้านบาท
พีพีทีวีมีจุดเด่นที่มีคอนเทนต์รายการประเภทกีฬา ได้ลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลลีกดังของต่างประเทศ และในปีนี้ได้ให้ความสำคัญกับคอนเทนต์หมวดบันเทิง มีทั้งรายการวาไรตี้ และละคร โดยจะมีการเริ่มลงผังตลาดละครไทย ในเดือนมิ.ย.นี้
เนื่องจากทั้งคอนเทนต์กีฬา และละคร เป็นส่วนที่ต้องลงทุนสูง ทำให้แต่ละปีพีพีทีวี ต้องอัดเงินลงทุนปีละไม่ต่ำกว่า 1 พันล้านอย่างต่อเนื่องมาโดยตลอด เพื่อสร้างคอนเทนต์ดึงดูดผู้ชม รวมถึงการดึงรายการดังจากช่องใหญ่มาออนแอร์ที่ช่องหลายรายการ เนื่องจากยังมีรายได้จากค่าโฆษณาไม่สูงนัก จึงยังคงขาดทุนต่อเนื่อง แต่ด้วยความที่มีผู้ถือหุ้นมีฐานะมั่นคง ที่พร้อมลงทุนต่อเนื่อง ที่ผ่านมาจึงไม่มีผลกระทบกับธุรกิจโดยรวม และไม่ต้องขอคืนช่องกับกสทช.
สำหรับเรตติ้งเฉลี่ยช่องพีพีทีวีในปี 2561 อยู่ในอันดับ 12 มีเรตติ้งเฉลี่ย 0.164 สูงกว่าเรตติ้งเฉลี่ยปี 2560 ที่มีเรตติ้งเฉลี่ย 0.162 และอยู่ในอันดับ 12 เช่นกัน
ส่วนเรตติ้งเฉลี่ยเดือนเม.ย.ที่ผ่านมานั้น อยู่ในอันดับ 10 เรตติ้งเฉลี่ย 0.189