ธุรกิจทีวีดิจิทัลยังคงได้รับผลกระทบอย่างหนักจากรายได้ค่าโฆษณาที่ลดลง และสภาวะเศรษฐกิจ แต่เวิร์คพอยท์ก็ยังสามารถรักษาสถานะ “กำไร”จากการประกอบกิจการทั้งปี 2562 อยู่ที่ 159.50 ล้านบาท แต่ตัวเลขกำไรก็ลดลงถึง 54% จากที่เคยกำไร 345.3 ล้านบาท ในปี 2561
ทั้งนี้ตัวเลขกำไรของเวิร์คพอยท์ลดลงอย่างต่อเนื่องในทุกปี ตั้งแต่ปี 2560 เคยมีกำไรสูงสุดถึง 904.09 ล้านบาท และลดลงมาทำกำไรได้ 345.30 ล้านบาท ในปี 2561 โดยลดลงถึง 62%
ธุรกิจทีวี รายได้ลดลง 26%
เมื่อวันที่ 25 ก.พ.2563 บริษัท เวิร์คพอยท์ ได้รายงานผลประกอบการปี 2562 ต่อตลาดหลักทรัพย์ฯ พบว่ามีรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 2,771.66 ล้านบาท ลดลง 23% จากปี 2561 ที่มีรายได้รวม 3,594.28 ล้านบาทโดยมีผลมาจากรายได้หลัก ที่มาจากรายการได้กลุ่มธุรกิจรายการทีวี ที่รวมถึง รายได้จากค่าโฆษณาทางช่องเวิร์คพอยท์ ช่องทางสื่อออนไลน์ รายได้จากการให้เช่าเวลา และรายได้จากขายลิขสิทธิ์รายการไปต่างประเทศ ทั้งหมดนี้ลดลง 26% จาก 2,968.24 ล้านบาทในปี 2561 มาอยู่ที่ 2.193.10 ล้านบาท
โดยที่เวิร์คพอยท์ชี้แจงว่า รายได้ส่วนนี้ลดลงมาจากการลดลงของรายได้จากช่องเวิร์คพอยท์เป็นหลัก เนื่องจากสภาวะในอุตสาหกรรมที่สูงขึ้น และสภาวะเศรษฐกิจ
ในขณะที่กลุ่มรายได้ที่มีผลงานดีขึ้น เป็นรายได้จากการรับจัดอีเวนท์ มีรายได้ 243.05 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29%
กลุ่มรายได้จากการขายสินค้าและบริการ ที่มาจากการขายสินค้ารูปแบบ TV Shopping และรายได้จากการให้เช่าโรงละครและบริการจัดหานักแสดง มีรายได้รวมกลุ่มนี้อยู่ที่ 216.62 ล้านบาท โดยมีสัดส่วนของรายได้ TV Shopping 70% ของรายได้ในส่วนนี้ ซึ่งสัดส่วนรายได้จาก TV Shopping เพิ่มสูงขึ้นจากปี 2561 ที่อยู่ในสัดส่วน 60% ของรายได้กลุ่มนี้
ในปี 2562 ที่ผ่านมาช่องเวิร์คพอยท์ มีเรตติ้งช่องที่ลดลงจากปี 2561 เรตติ้งเฉลี่ย 0.810 มาอยู่ที่ 0.702 แต่ยังคงอยู่ในอันดับ 4 ในขณะที่ยังไม่มีรายการใหม่ ที่สร้างความนิยมได้สูงเหมือนเช่นในอดีต เวิร์คพอยท์จึงหันมาใช้กลยุทธ์การเสริมรายการ TV Shopping เข้าไปในผังรายการมากขึ้น และคาดหวังรายได้จากธุรกิจ TV Shopping มาแทนที่ แต่ดูเหมือนว่ารายได้จากธุรกิจขายของยังไม่มากเท่ากับรายได้จากค่าโฆษณา
