ธุรกิจกลุ่มช่อง 3 ยังไม่ฟื้น แม้ได้ทีมผู้บริหารใหม่ ภาพลักษณ์ดีเข้ามาบริหารยกชุด นำโดย “บี๋ อริยะ พนมยงค์” เข้ามาทำงานตั้งแต่เม.ย.62 แต่รายได้ทั้งปี 2562 ลดลงหนักทั้งรายได้โฆษณา และธุรกิจดิจิทัล ที่เป็นจุดขายของทีมผู้บริหารใหม่ ส่งผลให้ภาพรวมทั้งปี 62 ขาดทุน 397.2 ล้านบาท ขาดทุนมากกว่าปี 61 ถึง 20.3% ในขณะที่รายได้จากค่าโฆษณาทั้งปีลดลงถึง 1,899.9 ล้านบาท
บริษัท บีอีซี เวิลด์ จำกัด (มหาชน) ได้รายงานผลประกอบการปี 2562 ทั้งปีต่อตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เมื่อวันที่ 22 ก.พ. 2563 ว่า ทั้งปีขาดทุน 397.2 ล้านบาท เป็นการขาดทุนต่อเนื่อง และมากกว่าปี 2561 ถึง 20.3% ที่ขาดทุน 330.2 ล้านบาท โดยที่รายได้จากค่าโฆษณาทั้งปีอยู่ที่ 6,743.5 ล้านบาทลดลงถึง 1,899.9 ล้านบาท หรือ 22.1% จากปี 2561 ที่มีรายได้โฆษณาอยู่ที่ 8,643.4 ล้านบาท ทั้งนี้ฝ่ายบริหารของ บีอีซี เวิลด์ให้สาเหตุว่า จากสภาพทางเศรษฐกิจไทยและแรงกดดันอย่างต่อเนื่อง และการขายนาทีโฆษณาลดลง
รายได้รวมของบริษัททั้งปี อยู่ที่ 8,310.2 ล้านบาท ลดลง 1,815.5 ล้านบาท หรือ 17.9% โดยกลุ่มรายได้ที่ลดลงมากที่สุดได้แก่ รายได้จากค่าโฆษณาอยู่ที่ 6,743.5 ล้านบาท ลดลง 1,899.9 ล้านบาท หรือ ลดลง 22% จากปี 2561 ท่ี 8,643.4 ล้านบาท โดย การลดลงของรายได้มาจากนาทีขายโฆษณาท่ีลดลง จากการแข่งขันสูงและได้รับแรงกดดันต่อเน่ืองจากภาวะเศรษฐกิจไทยในปี 2562 ที่ผู้ลงโฆษณาใช้เงินโฆษณาอย่างจำกัดกว่าในอดีตที่ผ่านมา รวมถึงรายได้โฆษณาของธุรกิจวิทยุก็ลดลงเช่นกัน ทั้งนี้รายได้หลักจากการขายเวลาโฆษณาของกลุ่ม BEC นั้น ยังคงเป็นรายได้หลัก อยู่ที่ 81.1% แต่ลดลงจากปี ก่อนท่ี 85.4% ของ รายได้รวม โดยยังคงมาจากการขายเวลาโฆษณาของ “ช่อง 3” เป็นหลัก
ส่วนรายได้จากการขายลิขสิทธิ์และรายได้อื่นๆ ในปี 2562 อยู่ที่ 953.3 ล้านบาท ลดลง 87.0 ล้านบาท หรือ ลดลง 8.4% จากปี 2561 ที่ 1,040.3 ล้านบาท โดยรายได้ที่ลดลงเป็นผลจากการขายลิขสิทธิ์ละครไปยัง ต่างประเทศ (Global Content Licensing) ที่ลดลงจาก ปีก่อน และจากธุรกิจ ออนไลน์ท่ีผ่านแพลตฟอร์มและ เว็บไซต์ของกลุ่ม BEC เช่น CH3Thailand และ Mello รวมถึงแพลตฟอร์มพันธมิตรที่ลดลง
ส่วนรายได้จากการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์ในปี 2562 อยู่ที่ 557.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 188.5 ล้านบาท จาก หรือเพิ่มขึ้น 51.1% จากปี 2561 ท่ี 368.5 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นตามจำนวนและขนาดกิจกรรมที่มีมากขึ้น ทั้งนี้ในปี 2562 ได้มีการจัดคอนเสิร์ตและแสดงโชว์ อาทิเช่น Disney On Ice, Walking With Dinosaurs 2019 การแสดงละครเวที The Lion King และการ จัดการประกวด Miss Thailand World 2019 และมีการรับจ้างจัดคอนเสิร์ตได้แก่ Ed Sheeran Divide World Tour 2019, Westlife The Twenty Tour แ ล ะ Backstreet Boys DNA World Tour
รายได้เฉพาะไตรมาส 4/62 ลด 26 %
สำหรับรายได้เฉพาะไตรมาส 4 ปี 2562 พบว่า บีอีซี เวิลด์มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,080 ล้านบาทเท่านั้น ลดลง 19% เมื่อเทียบกับไตรมาส 4 ปี 2561 ที่อยู่ที่ 2,576 ล้านบาท โดยที่รายได้จากค่าโฆษณาไตรมาส 4 / 62 อยู่ที่ 1,525 ล้านบาท ลดลง 26% จาก 2,076 ล้านบาทในไตรมาส 4/61
รายได้จากค่าลิขสิทธิ์และอื่นๆในไตรมาส 4/62 อยู่ที่ 285 ล้านบาท ลดลง 27% จาก 392 ล้านบาทในไตรมาส 4/61 ทำให้ไตรมาส 4/62 มีผลประกอบการขาดทุนรวม 113 ล้านบาท เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้าขาดทุนอยู่ที่ 125 ล้านบาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์ ชี้แจงว่า สถานการณ์ของกลุ่มช่อง 3 ในขณะนี้อาการน่าเป็นห่วง ทั้งๆที่ในปี 2562 ได้รับประโยชน์จากการคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัลถึง 2 ช่อง จากกสทช.ได้เงินมาช่วยเหลือ 820 .23 ล้านบาท แต่กลับขาดทุนหนักกว่าเดิม เห็นได้ชัดว่ารายได้จากการขายโฆษณาลดลงมาก แต่รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ และช่องทางดิจิทัล ที่กลุ่มผู้บริหารใหม่พยายามมุ่งเน้น กลับพบว่าไม่ได้มีรายได้เพิ่มขึ้นด้วยเช่นกัน รายได้ส่วนที่เพิ่มขึ้นเป็นรายได้จากการจัดคอนเสิร์ต ที่แม้มีรายได้เพิ่มขึ้นทั้งปี 51.1% แต่ธุรกิจนี้ไม่ได้มีกำไรมากนัก
ก่อนหน้านี้ “บี๋ อริยะ” ได้เคยแถลงข่าวว่า ภายใน 4 ปีข้างหน้า สัดส่วนรายได้หลักของกลุ่มช่อง 3 จะมาจากธุรกิจออนไลน์และช่องทางใหม่ๆ ในสัดส่วนถึง 35% ส่วนรายได้จากค่าโฆษณาจะลดลงเหลือ 65% เท่านั้น
สำหรับปี 2562 รายได้จากค่าโฆษณาคิดเป็นสัดส่วน 81.1% ของรายได้ทั้งหมด และรายได้จากค่าลิขสิทธิ์ ธุรกิจออนไลน์อยู่ที่ 11.5%