ปมลิขสิทธิ์บอลโลก ทรู-เอไอเอส บานปลาย ทรูโฟร์ยู ส่งหนังสือถึงกสทช.ขอให้สั่งห้าม AIS Play และ AIS Play Box เอาช่องทรูโฟร์ยูไปออกอากาศทั้งช่อง อ้างเป็นบริการ OTT กระทบเรตติ้ง และรายได้ของทรูโฟร์ยู
หลังจากที่ทรูวิชั่นส์ได้ได้รับการคุ้มครองชั่วคราวจากศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง ห้ามไม่ให้ AIS Play ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกโดยไม่ได้รับอนุญาตจากทรูฯตามกม.ลิขสิทธิ์ โดยมีผลการคุ้มครองตั้งแต่วันที่ 28 มิ.ย.ที่ผ่านมานั้น ล่าสุดทรูฯได้ยื่นฟ้องเอไอเอสต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาฯ อย่างเป็นทางการในวันที่ 10 ก.ค.ที่ผ่านแล้ว
นอกจากนี้ยังมีความเคลื่อนไหวจากทรูโฟร์ยู ช่องทีวีดิจิทัลในกลุ่มทรูฯ โดยเมื่อวันที่ 6 ก.ค. ทรูโฟร์ยูได้ทำหนังสือถึงคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ(กสทช.)ระบุว่า ช่องทรูโฟร์ยู ที่ได้รับช่วงสิทธิการออกอากาศการแข่งขันฟุตบอลโลก 2018 ระหว่างวันที่14 มิ.ย.-15 ก.ค. 61จากทรูวิชั่นส์ ไม่ยินยอมให้บริษัทซุปเปอร์ บรอดแบนด์ เน็ทเวอร์ค หรือ SBN ที่ได้รับใบอนุญาตประกอบกิจการเครือข่ายกระจายเสียงของกลุ่มเอไอเอส นำช่องรายการทรูโฟร์ยูไปออกอากาศบน AIS Play และ AIS Play Box หรือช่องทางอื่นซึ่งเป็นการออกอากาศผ่านระบบอินเตอร์เนทของกลุ่มเอไอเอส แม้ว่า SBN ได้อ้างสิทธิตามประกาศ Must Carry ที่นำช่องต้องนำช่องดิจิทัลทีวีทุกช่องไปออกอากาศในทุกเครือข่ายที่ได้รับใบอนุญาตของกสทช.ก็ตาม
เนื่องจากทรูโฟร์ยูได้รับทราบข้อมูลว่า SBN ได้แถลงต่อศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศกลาง เมื่อวันที่ 3 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า การแพร่ภาพผ่าน AIS Play Box มีระบบที่ให้บริการออกอากาศผ่านแอปพลิเคชั่น AIS Play ที่เป็นแอปพลิเคชั่นที่บริษัทเข้าใจว่าเป็นบริการแบบ OTT ทำให้เชื่อได้ว่า บริการ AIS Play Box มีลักษณะของบริการ OTT เช่นเดียวกับ AIS Play ดังนั้น AIS Play Box จึงไม่ใช่บริการ IPTV ตามประกาศการเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตของกสทช. SBN และไม่มีสิทธินำช่องรายการของทรูโฟร์ยูไปออกอากาศตามกฏหมาย
ทั้งนี้บริษัทเบเกอร์ แอนด์ แม็คเค็นซี่ ทนายความของทรูโฟร์ยูได้มีหนังสือแจ้งให้ SBN ยุติการออกอากาศช่องรายการของทรูโฟร์ยูโดยทันที ตั้งแต่วันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา แต่จนปัจจุบัน SBN ก็ยังเพิกเฉย นำช่องรายการของทรูโฟร์ยูไปออกอากาศตลอดเวลา รวมถึงช่วงที่ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลกด้วย โดยเฉพาะช่วงเวลาวันที่ส่งหนังสือถึงกสทช. ตั้งแต่วันที่ 6 ก.ค.ถึง 15 ก.ค.เป็นการแข่งขันในรอบ 8 ทีมสุดท้ายจนถึงรอบชิงชนะเลิศ ที่เป็นช่วงเวลาสำคัญที่ประชาชนส่วนใหญ่ตั้งตารอคอยชมการถ่ายทอดสด และเป็นโอกาสสำคัญของบริษัทที่จะใช้ช่วงเวลานี้เพิ่มยอดผู้ชมผ่านทางช่องทรูโฟร์ยูโดยตรง การที่ปล่อยให้ SBN เอาช่องรายการไปออกอากาศบน AIS Play และ AIS Play Box ต่อไป จะส่งผลกระทบต่อทรูโฟร์ยูในการไต่อันดับความนิยมของช่องจากประชาชนทั่วประเทศ และยังกระทบต่อสิทธิในการหารายได้โฆษณาโดยชอบธรรมของบริษัท
จึงขอให้กสทช.ได้มีคำสั่งให้ SBN ยุติการออกอากาศช่องทรูโฟร์ยูใน AIS Play และ AIS Play Box โดยเร่งด่วน เพื่อบรรเทาความเสียหายของบริษัท หากกสทช.ไม่ดำเนินการใดๆ จะไม่ทันการ และยังเป็นการทำลายโอกาสของบริษัท ที่ต้องลงทุนจำนวนมากในการได้มาซึ่งสิทธิในการออกอากาศฟุตบอลโลก ที่เป็นโอกาสสำคัญที่ทรูโฟร์ยูจะได้รับความนิยม และหารายได้จากโฆษณา ซึ่งลิขสิทธิ์ฟุตบอลโลกมี 4 ปีครั้ง ไม่แน่นอนว่าในครั้งหน้าจะได้รับสิทธิ์แบบนี้หรือไม่ ในขณะที่ SBN ไม่ได้เกิดความเสียหายแต่อย่างใด เพราะ SBN ไม่ได้ลงทุนลงแรงอะไรในครั้งนี้ อีกทั้งประชาชนยังสามารถรับชมฟุตบอลโลกได้จากช่องทางอื่นๆที่ถูกกฏหมาย
ทั้งนี้หากกสทช.ไม่ดำเนินการตามที่บริษัทร้องขอทันที ย่อมจะส่งผลกระทบต่อสิทธิในการออกอากาศฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายนี้อย่างมาก และถือเป็นการกระทำละเมิดทางปกครองต่อบริษัท ซึ่งบริษัทขอสงวนสิทธิ์ในการใช้สิทธิ์ตามกฏหมายเพื่อเรียกร้องเอาค่าเสียหายจากสำนักงานกสทช.และผู้เกี่ยวข้องต่อไป