จับตาช่วงไพรม์ไทม์เดือนสิงหา ใครจะมา ?

หากปีนี้ ไม่เจอสถานการณ์โควิด -19 จนกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจ ลามไปสู่ทุกภาคธุรกิจแล้ว คาดว่าช่วงกลางปีนี้ จะเป็นช่วงที่หลายๆช่องจัดคอนเทนต์สู้กันอย่างดุเดือด แต่เมื่อทุกอย่างไม่เป็นไปตามคาดหวัง กลายเป็นว่าครึ่งปีแรกของปี เป็นช่วงเวลาประคองตัว ลดต้นทุน จัดคอนเทนต์รีรันกันถ้วนหน้า

เมื่อการระบาดไวรัสโควิด-19 ในประเทศเบาบางลง จึงดูเหมือนว่า เดือนส.ค. จะเป็นเดือนเริ่มต้นการคืนผังของรายการปกติเกือบทั้งหมดจากหลายช่อง ละครรีรันในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ลดน้อยลง แต่ก็ยังไม่หมดไปเสียทีเดียว

ช่อง 7 วางละครรีรันไว้ช่วงปลายสัปดาห์ ศุกร์-อาทิตย์ ยังเป็นละคร “สองนรี” ที่ประสบความสำเร็จจากการออนแอร์ครั้งแรก แต่การนำกลับมารีรันอีกครั้ง ยังไม่ได้การตอบรับที่ดีนัก เรตติ้งอยู่ในระดับ 3.6-4.1 เท่านั้น จาก 9 ตอนแรก ประมาณครึ่งหนึ่งจากการออนแอร์ครั้งแรกมีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 6.496 ละครที่เด่นที่สุดของช่อง 7 ล็อตนี้ได้แก่ “คนเหนือฅน” จากค่ายโคลีเซียม จากการกำกับครั้งแรกของ เอก รังสิโรจน์ พระเอกนักบู๊ ที่โด่งดังมาจากละครค่ายอาหลอง-ฉลอง ภักดีวิจิตรมาก่อน มีเรตติ้งสูงสุดเมื่อเทียบกับทุกเรื่องที่ออนแอร์ในช่วงเวลานี้ ตอนล่าสุดพฤหัสที่ 30 ก.ค.เรตติ้ง 5.705 ส่วนละครดราม่า “พรหมพิศวาส” เรตติ้งตอนล่าสุด 28 ก.ค.ได้ 4.045

ช่อง 3 ช่วงลดต้นทุน จัดละครรีรัน ช่วงท้ายของไพรม์ไทม์ ละครดังในอดีต “สวรรค์เบี่ยง” ทำเรตติ้งอยู่ในระดับ 1.5- 2 แม้เรตติ้งไม่สูงนัก แต่เทียบกับรายการที่ออนแอร์ช่วง 4 ทุ่มแล้ว นับว่าเรตติ้งพอใช้ สำหรับละครเก่า ที่ไม่มีต้นทุน แต่ดูแนวโน้มแล้วเรตติ้งละคร “สวรรค์เบี่ยง” ขึ้นอยู่กับละคร ที่ออนแอร์ก่อนหน้าด้วย เมื่อเจอกับละครใหม่ “ดวงแบบนี้ ไม่มีจู๋” ละครคอมเมดี้ ที่เปิดตัวตอนแรกไม่ดี ได้เพียง 1.819 จึงส่งผลต่อไปยัง “สวรรค์เบี่ยง” เรตติ้งตกลงมาอยู่ที่ 1.074 เท่านั้น

เรื่องที่น่าแปลกจากข้อมูลเรตติ้ง พบว่าละครรีรันช่อง 3 ที่มาใช้งานช่วงโควิด-19 ได้ผลดี แต่ละครใหม่ออนแอร์ กลับไม่ได้ตามเป้า

ช่อง One เรตติ้งช่วงไพรม์ไทม์ลดลงมาต่อเนื่อง มีเรตติ้งค่าเฉลี่ยช่วงนี้อยู่ที่ 1 กว่า ประกาศว่า “สิงหา มาเต็ม” ด้วยการใส่ของใหม่ 3 เรื่อง “ฉลาดเกมส์โกง” “ฉันชื่อบุษบา” และซิทคอม “3 หนุ่ม 3 มุม x 2” แต่ดูเหมือนยังไม่เต็ม ตามที่ประกาศ เพราะช่วงท้ายของไพรม์ไทม์ยังเป็นละครรีรัน “หัวใจศิลา” ยังไม่จัดละครใหม่เข้าเต็มผัง

แต่ละคร 3 เรื่องใหม่ ล้วนน่าจับตา “ฉลาดเกมส์โกง” ค่าย GDH จากหนังที่ประสบความสำเร็จมากมายทั้งในและนอกประเทศ ภาพจำที่คนเคยดูหนังที่ประสบความสำเร็จมาแล้ว เมื่อมาในรูปละคร พร้อมนักแสดงวัยรุ่น มีชื่อเสียง เรียกกระแส ที่ผู้ชมพร้อมเปรียบเทียบกับตัวเอกในหนัง แต่กระแสโปรโมท เน้นว่า เพิ่มเรื่องรัก และตอนจบที่ไม่เหมือนเดิม ต้องรอดูว่า จะเรียกความนิยมจากกลุ่มผู้ชมทีวีได้ขนาดไหน

ส่วนเรื่อง “ฉันชื่อบุษบา” ดัดแปลงจากซีรีส์เกาหลี “MY LOVELY SAMSOON (ฉันนี่แหละ…คิมซัมซุน) ได้นักแสดงคู่จิ้นต่างวัยของช่อง “บี น้ำทิพย์” และ “ฟิล์ม ธนภัทร” กลับมาพบกันอีกครั้ง กำกับการแสดงโดย : พันธุ์ธัมม์ ทองสังข์ และกรัณย์ คุ้มอนุวงศ์ ผู้กำกับเจ้าประจำของช่อง One

ส่วนพันธุ์ธัมม์ เคยเป็นผู้กำกับคนแรกของละครช่อง 3 “ ลิขิตรักข้ามดวงดาว” แต่เดินจากไปก่อน เป็นผู้บริหารงานละครช่อง GMM25 อยู่ระยะหนึ่ง เมื่อละคร “ลิขิตรักข้ามดวงดาว” มีการเปลี่ยนมือผู้กำกับ เป็นละครไทยที่เดินเรื่องราวเหมือนเป๊ะจากซีรีส์เกาหลี “My Love From The Star” ไม่ประสบความสำเร็จหลังออนแอร์ แต่คราวนี้ไม่น่าจะเหมือนกัน เพราะละคร “ฉันชื่อบุษบา” แม้มีโครงเรื่องจากเกาหลี แต่ใส่ความเป็นไทยเพื่อรสนิยมผู้ชมไทยมากขึ้น ต้องรอพิสูจน์ว่าจะได้รับการตอบรับเช่นไร

ซิทคอม “3 หนุ่ม 3 มุม x 2” ซิทคอมที่ประสบความสำเร็จ เมื่อกว่า 20 ปีที่แล้ว ออนแอร์ช่วงปี 2534- 2541 เป็นที่จดจำของคนรุ่นเก่า กลับมาใหม่พร้อมนักแสดงหลัก 3 คน “กบ-แท่ง-มอส” พร้อมลูกๆของเขา ที่เป็นนักแสดงหน้าใหม่ จัดลงคืนวันเสาร์ วันครอบครัว ช่วงเวลาที่น่าสนใจ

ช่อง GMM25 จัดเต็มผังช่วงไพรม์ไทม์ ด้วยละครดราม่าโทนเดียวกันถึง 2 เรื่อง “เริงริตา” และ “ไฟสิ้นเชื้อ” หวังกลุ่มผู้ชมแมส แต่เรตติ้งยังไม่ร้อนแรงตามคาดหวังนัก ส่วนช่วงปลายสัปดาห์เป็นคลับ ฟรายเดย์ และซีรีส์ 3 วันรวด ที่เป็นกลุ่มเฉพาะ เรตติ้งซีรีส์อยู่ในระดับ 0.2-0.3

ช่อง 8 จัดให้กับช่วงเวลาละครไทย ทั้งค่ำและหลัง 2 ทุ่ม ด้วยการย้ายซีรีส์อินเดียที่คลายความนิยมลงไปจากตลาดผู้ชมไทยไปอยู่ช่วงบ่ายแทน ช่วงหลัง 2 ทุ่ม เปิดตัวด้วยละคร “ภูตรัตติกาล” ละครสไตล์ช่อง 8 ความรัก ความหลง ความริษยา ขายความแรงในบทของนักแสดง เรตติ้งตอนล่าสุด 30 ก.ค.ได้ 0.408 ยังไม่สูงมากนัก

เรตติ้งเฉลี่ยของช่อง 8 ในเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมายังอยู่ที่ เฉลี่ย 0.269 หลังจากที่เรตติ้งลดลงจากความนิยมของซีรีส์อินเดียน้อยลง อีกทั้งการจัดช่วงเวลาขายของแทบทุกช่วงเวลา ค่าเฉลี่ยเรตติ้งช่องยังน้อยกว่าช่อง 3SD ที่คืนช่องไปแล้ว โดยในช่วงเดียวกันนี้ของปีที่แล้ว ช่อง 3SD มีเรตติ้งเฉลี่ยที่ 0.283 คงต้องใช้เวลาค่อยๆฟื้นตัว จึงคาดหวังสูงความปังจากละครไทยรสแซ่บ และการถ่ายทอดสดมวยไทยที่กลับคืนผังเต็มที่แล้ว

ส่วนช่องเวิร์คพอยท์ ผังรายการยังไม่เปลี่ยนแปลง รายการที่ทำเรตติ้งได้ดีสุดของช่วงหลัง 2 ทุ่ม ยังเป็นรายการ “นักร้องซ่อนแอบ” เรตติ้งไม่ได้สูงดังอดีต ตอนล่าสุดวันที่ 29 ก.ค.ได้ 2.019 ในขณะที่รายการใหม่นักร้องหญิงกลุ่มใหม่ “โฟร์อีฟ เกิร์ลกรุ๊ป สตาร์” เรตติ้งตอนล่าสุด 27 ก.ค.อยู่ที่ 0.654 เท่านั้น ยังคงต้องแสวงหาจุดเปลี่ยน รายการปังใหม่ๆให้ได้

ช่อง Mono เรตติ้งขึ้นกับภาพยนตร์เรื่องดังที่จัดลงผัง ปีนี้กลุ่ม Mono ซื้อหนังสต๊อกไว้มาก แถมได้ข่าวว่าได้ราคาดี ช่วยลดต้นทุนได้เยอะ เป็นอีกช่องหนึ่งทางเลือกของผู้ชม ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศบันเทิงไทยๆ

อย่างไรก็ตาม แม้กลุ่มช่องคอนเทนต์บันเทิงจะ เริ่มจัดเต็มในช่วงไพรม์ไทม์ แต่จะประมาทกลุ่มช่องข่าว ที่เกาะกระแสข่าวดังไม่ได้ เมื่อข่าวสร้าง “ดราม่า” โดยเฉพาะกรณีการเสียชีวิตของ “น้องชมพู่” ที่ยังไม่มีข้อสรุป และข่าวร้อนในแต่ละสถานการณ์ เรตติ้งของรายการ “ทุบโต๊ะข่าว” และ “ไทยรัฐนิวส์โชว์” 2 ช่องที่จัดเต็มรายงานข่าวช่วงไพรม์ไทม์ ทำเรตติ้งเฉลี่ย 3 ทั้งสองรายการ

เมื่อรายการข่าวชิงเรตติ้งไปแล้วส่วนหนึ่ง จึงมีผลกระทบต่อกลุ่มรายการบันเทิงที่ต่างต้องแย่งชิงฐานผู้ชมด้วยเช่นกัน เดือนส.ค.นี้ การแข่งขันช่วงไพรม์ไทม์ คอนเทนต์ช่องไหนจะปัง มาแรงสุด มาดูกัน