ข่าวด่วนล่าสุดของวงการทีวี! มีรายงานข่าวจากวงการเอเจนซี่เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.63 “สุรินทร์ กฤติยาพงศ์พันธุ์” กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท บางกอก มีเดีย แอนด์ บรอดคาสติ้ง จำกัด (ช่อง PPTV) ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่ง โดยจะมีผลในวันที่ 30 มิ.ย.นี้ และ มีการแต่งตั้ง “หน่อง -พลากร สมสุวรรณ” รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ ขึ้นรักษาการแทน
สุรินทร์ เคยเป็นอดีตผู้บริหารมือการตลาดที่สำคัญของกลุ่มช่อง 3 และเคยรักษาการตำแหน่งกรรมการผู้จัดการบริษัท บางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด (ช่อง 3) ในยุคของ “ประสาร มาลีนนท์” ในเดือนม.ค.2559 ก่อนที่จะโบกมือลาจากช่อง 3 ในช่วงกลางปี 2560 และมารับตำแหน่งใหญ่ บริหารที่ช่อง PPTV ในวันที่ 1 ก.ย. 2560
ในยุคที่สุรินทร์ บริหารช่อง PPTV นี้ ได้เริ่มประกาศการเดินหน้าผลักดันทิศทางช่อง PPTV สู่การเป็น World Class TV โดยในต้นปี 2561 PPTV ทุ่มทุนหลักพันล้านบาท ในการซื้อลิขสิทธิ์รายการบันเทิงต่างประเทศ รายการสารคดี และเริ่มผลิตรายการวาไรตี้ในประเทศ เข้ามาเสริมผังเพื่อ ปรับเปลี่ยนจากทิศทางช่องกีฬามาเป็นช่องวาไรตี้บันเทิง
ในช่วงปลายปี 2561 PPTV ได้ใช้กลยุทธ์ดึงรายการดังจากช่องใหญ่ ตั้งแต่รายการประกวดร้องเพลงชื่อดังจากช่อง 3 “ The Voice “ มาออนแอร์ที่ช่อง PPTV ตั้งแต่เดือนพ.ย.2561 โดยเป็นการซื้อลิขสิทธิ์ออกอากาศต่อเนื่อง 3 ปี ใช้งบลงทุนกว่า 500 ล้านบาท และรายการ “กิ๊ก ดู๋ “ รายการที่อยู่คู่กับช่อง 7 มาตั้งแต่ปี 2553 มาออนแอร์ที่ช่อง PPTV ในต้นปี 2562
ในต้นปี 2562 “สุรินทร์”ประกาศทุ่มทุนกว่า 2,000 ล้านบาท ที่มีทั้งการทุ่มซื้อลิขสิทธิ์กีฬาที่คนไทยให้ความนิยม และเพิ่มเติมคือ นโยบายการผลิตละครไทย ให้กับช่อง PPTV โดยการทุ่มทุนกว่า 500 ล้านบาท ในการเปิดตัวละครชุดแรกรวดเดียว 10 เรื่อง เพื่อจะออนแอร์ในช่วงกลางปี เริ่มจากเรื่อง “มนตรามหาเสน่ห์” ในกลางเดือนมิ.ย.2562 มีเรตติ้งเฉลี่ยจากการออกอากาศทั้งเรื่องอยู่ที่ 0.431 เป็นละครเรื่องที่ทำเรตติ้งเฉลี่ยได้สูงสุดในยุค World Class TV ส่วนเรื่องต่อๆมา มีเรตติ้งเฉลี่ยลดลงต่อเนื่อง จนมีข่าวว่าฝ่ายบริหารต้องทบทวนการผลิตละครใหม่ทั้งหมด และหันมาเน้นกลุ่มรายการข่าวให้มากขึ้น
ในช่วงวิกฤตการระบาดของไวรัสโควิด-19 ก็มีข่าวว่ามีการลดเงินเดือนผู้บริหารระดับสูงในช่อง PPTV ด้วย จนเกิดข่าวลือว่า กำลังจะมีการเปลี่ยนแปลงตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงในเร็วๆนี้
“หน่อง พลากร “ขึ้นแท่น รักษาการ
และในที่สุด ข่าวลือก็เป็นจริง เมื่อวันที่ 5 มิ.ย.ที่ผ่านมา “สุรินทร์” ยื่นใบลาออก โดยจะมีผลอย่างเป็นทางการในวันที่ 30 มิ.ย.2563 ซึ่ง PPTV ก็ได้แต่งตั้ง “หน่อง พลากร สมสุวรรณ” อดีตผู้บริหารจากช่อง 7 ขึ้นมารักษาการทันที
สำหรับพลากร ถือเป็นลูกหม้อของช่อง 7 เริ่มทำงานในฐานะผู้ประกาศ และพิธีกรรายการ จนกระทั่งได้รับการโปรโมทมารับตำแหน่งผู้บริหารในช่อง 7 ได้รับความไว้วางใจจาก “กฤตย์ รัตนรักษ์” นายใหญ่ของช่อง 7 แต่งตั้งเป็น กรรมการผู้จัดการช่อง 7 เป็นตำแหน่งบริหารสูงสุดที่ช่อง 7 ตั้งแต่ปี 2556 จนกระทั่งออกจากตำแหน่งเมื่อสิ้นปี 2560
“พลากร” เข้ามารับตำแหน่ง รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ช่อง PPTV ในเดือนเม.ย.2561
สุรินทร์ เป็นผู้บริหารระดับสูงสุดของช่อง PPTV คนแรกที่ลาออกจากตำแหน่ง โดยก่อนหน้านี้กรรมการผู้อำนวยการใหญ่คนแรกได้แก่ “เขมทัตต์ พลเดช” ที่ครบวาระในสิ้นปี 2559 ปัจจุบัน “เขมทัตต์” เป็นกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท อสมท
สำหรับผลงานของช่อง PPTV ในปี 2562 สามารถทำอันดับขึ้นมาอยู่ที่ 10 มีเรตติ้งเฉลี่ย 0.197 โดยมีรายหลักที่ได้รับความนิยมสูงสุดได้แก่ การถ่ายทอดสดฟุตบอล รายการบันเทิง “กิ๊ก ดู๋” และ The Voice” รวมถึงรายการข่าว แต่ในช่วงปลายปี 2562 เกิดปัญหาเรื่องลิขสิทธิ์การถ่ายทอดสดฟุตบอลพรีเมียร์ลีก ที่มีสัญญาณไปโผล่ประเทศเพื่อนบ้าน จนต้องยุติการถ่ายทอดสดตั้งแต่เดือนต.ค.62 เป็นต้น ในขณะที่กลุ่มรายการบันเทิง ก็มีเรตติ้งลดลงต่อเนื่อง
ในปี 2563 ตั้งแต่เดือนม.ค.เป็นต้นมา จากข้อมูลเรตติ้งรายเดือน พบว่าช่อง PPTV หล่นจากอันดับ 10 เป็นอยู่ที่ 11-12 พึ่งกลับเข้ามาในอันดับ 10 ในเดือนพ.ค.ที่ผ่านมา หลังจากได้กลับมาถ่ายทอดสดรายการฟุตบอลบุนเดสลีกา เยอรมัน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง พลากร จากช่อง 7 สู่ พีพีทีวี
www.tvdigitalwatch.com/news-palakorn-pptv-03-04-61