Netflix ค่อย ๆ ชิงคนดูเคเบิลทีวีมาแล้ว และกำลังใช้กลยุทธ์ราคาถูก และการผลิตรายการภาษาท้องถิ่น เพื่อชิงตลาดผู้ชมทีวีทั่วโลกอย่างหนัก
หลายสำนักข่าวต่างชาติ รายงานการเติบโตของทีวีออนไลน์ Netflix ไม่อาจมองข้ามได้ เพราะปีนี้ มียอดสมาชิกถึง 137 ล้านราย และมีแผนบุกต่อเต็มที่ นี่คือคู่แข่งสำคัญของวงการทีวีเช่นกัน ไม่ใช่เฉพาะในไทย แต่ทั่วโลก
แม้ Netflix กำลังเจอกับความท้าทายสำคัญของพันธมิตรที่เคยอยู่กันมาอย่าง ดิสนีย์ เอทีแอนด์ที ที่แถลงว่ากำลังจะให้บริการเองถึงผู้ชม ไม่ผ่าน Netflix ภายในไตรมาส 4 ปี 2019 แต่การแยกไปเติบโตเองของพันธมิตรผู้ผลิตรายการ ระดับ Netflix ย่อมมีแผนรับมือ
หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านคอนเทนท์ ของ Netflix Ted Sarandos เปิดเผย ในงาน UBS’s 46th Annual Global Media and Communications Conference ที่ New York เมื่อวานนี้ว่า ตลอด 7 ปี Netflix มีแผนนำเสนอรายการต่าง ๆ ถึงผู้ชมตลอดเวลา ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น เน้นย้ำว่าทำเพื่อผู้ชมทุกคน ไม่ได้เฉพาะกลุ่มเหมือนอย่างบริการเคเบิลทีวี ที่เน้นลุ่มเป้าหมายเฉพาะของตัวเอง
เขาย้ำด้วยว่า Netflix ไม่สนใจถ่ายทอดสดรายการกีฬา เพราะทำให้ลดทอนจุดแข็ง Netflix ที่เน้นรายการตามความต้องการผู้ชม ให้สะดวกสบาย อิสระที่จะชมเมื่อไหร่ ตอนไหนก็ได้
ในส่วนของตลาดโลก ที่มีสมาชิกอยู่ทั่วโลกมากกว่าในประเทศสหรัฐอเมริกา ทำให้ Netflix เร่งผลิตรายการภาษาภูมิภาคอื่น อย่างในแอฟริกา เอเชีย เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน จีน และอินเดีย
โดยเฉพาะในอินเดีย ที่ Netflix ประเมินว่าจะมีสมาชิก 100 ล้านคนจากอินเดียนับจากนี้ หลังจากเปิดตัวบริการมาเมื่อเดือนมกราคม 2016 และสิ้นปี 2017 มีสมาชิกแล้ว 5 ล้านคน แต่ที่อินเดีย Netflix ก็ยังต้องแข่งขันกับผู้ให้บริการของอินเดียเอง อย่าง Hotstar ที่มีสมาชิกถึง 75 ล้านคนที่แอคทีฟต่อเดือน และอเมซอนที่มีสมาชิกอยู่กว่า 11 ล้านคน
นอกเหนือจากนี้ในหลายประเทศเอเชีย Netflix ก็รุกหาสมาชิกด้วยการให้บริการราคาถูก อย่างที่มาเลเซียที่เปิดตัวไป ด้วยค่าบริการประมาณ 4 เหรียญสหรัฐต่อเดือน ถูกกว่าราคาปกติประมาณครึ่งหนึ่งที่คิดอยู่ 8-10 เหรียญสหรัฐต่อเดือน เพราะคู่แข่งอื่น ๆ ให้บริการถูกกว่าอยู่
ส่วนประเทศไทย ที่ Netflix โปรโมทอยู่คือค่าบริการเริ่มต้นเดือนละ 280 บาท เริ่มให้ทดลองฟรี 1 เดือน