เมื่อเร็วๆนี้ กสทช.ได้ทำหนังสือแจ้งบริษัทบีอีซี มัลติมีเดีย ผู้บริหารช่อง 3 HD ช่องทีวีดิจิทัล ให้แยกผังรายการการออกอากาศระหว่างช่อง 3 แอนะล็อค และช่อง 3HD ออกจากกัน ในวันที่ 17 ก.ค.นี้ หลังจากที่ช่อง 9 อสมท.ปิดระบบทีวีแอนะล็อค เพื่อเป็นสัญลักษณ์ของการเปลี่ยนผ่านจากระบบแอนะล็อคมาเป็นดิจิทัลโดยสมบูรณ์ โดยจะเหลือช่อง 3 แอนะล็อค ที่ออกอากาศระบบแอนะล็อคเพียงช่องเดียว พร้อมทั้งเรียกให้ช่อง 3 ส่งตัวแทนมาชี้แจงเรื่องนี้ในวันจันทร์ที่ 9 ก.ค.นี้ที่กสทช.
ในขณะที่ในเบื้องต้นช่อง 3 แจ้งกสทช.ว่าไม่สามารถปฏิบัติตามคำสั่งกสทช.ได้ เพราะได้ออกอากาศคู่ขนานตามข้อตกลงที่ศาลปกครองระหว่างช่อง 3 แอนะล็อคและกสทช.เมื่อวันที่ 8 ต.ค.2557 ที่ให้ทำการออกอากาศผังเดียวกันระหว่างช่อง 3 แอนะล็อคและช่อง 3 HD
ช่อง 3 และ 3HD ได้ออกอากาศคู่ขนานใช้ผังรายการเดียวกันหรือ Simulcast มาตั้งแต่วันที่ 10 ตุลาคม 2557 ตามข้อตกลงร่วมกันของบริษัทบางกอก เอ็นเตอร์เทนเม้นต์ (ช่อง 3 แอนะล็อค) และกสทช.ต่อหน้าศาลปกครองในวันที่ 8 ตุลาคม 2557 หลังจากที่มีข้อพิพาทกันระหว่างกสทช. และช่อง 3 ในเรื่องกฎ Must Carry ต่อช่องแอนะล็อค มาตั้งแต่ช่วงกลางปี 2557 เป็นช่วงที่บรรดาทีวีดิจิทัลทั้งหมดเริ่มออกอากาศทุกช่องแล้ว และกสทช.ได้ประกาศว่าช่องกิจการฟรีทีวีจะครอบคลุมแค่ทีวีดิจิทัลเท่านั้น ไม่รวมทีวีแอนะล็อค ซึ่งมีผลทำให้ช่องทีวีแอนะล็อคไม่สามารถไปออกอากาศในเครือข่ายอื่นๆทุกเครือข่าย ยกเว้นเครือข่ายแอนะล็อคเองเท่านั้น จนช่อง 3 ไปฟ้องศาลปกครอง และมีการไกล่เกลี่ยกันจนได้ข้อสรุปในคำสั่งศาลวันที่ 8 ต.ค.2557
ในขณะที่คำสั่งของกสทช.ให้ยุติการออกอากาศคู่ขนานนี้ สืบเนื่องมาจากวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ จะเป็นวันที่ช่อง 9 และช่อง 11 จะปิดสถานีทีวีระบบแอนะล็อคทั้งหมด ตามหลังช่อง 7, ไทยพีบีเอส และช่อง 5 ที่ปิดไปเมื่อ 16 มิถุนายนที่ผ่านมา ทำให้เหลือเพียงช่อง 3 ช่องเดียวที่คงเหลือระบบทีวีแอนะล็อคในประเทศไทยไปจนกว่าจะหมดสัมปทานกับอสมท. ที่จะสิ้นสุดในวันที่ 25 มีนาคม 2563
โดยบอร์ดกสทช.ได้มีมติตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมาว่า ในวันที่ 16 กรกฎาคมนี้ จะเป็นวันสิ้นสุดของการอนุญาตให้มีการออกอากาศคู่ขนาน หรือ Simulcast ระหว่างทีวีแอนะล็อคและดิจิทัล ที่เคยมี 3 ช่องคือ ช่อง 3, 7 และ 9 และต่อไปนี้ช่อง 3 และ 3 HD จะต้องแยกเครื่องหมาย และสัญลักษณ์ของรายการ ของทั้งสองช่อง โดยไม่เป็นผังรายการเดียวอีกต่อไป
อย่างไรก็ตามเมื่อกสทช.แจ้งให้บริษัทบีอีซี มัลติมีเดีย ที่บริหารช่อง 3HD ให้แยกผังรายการออกมาจากช่อง 3 แอนะล็อค แต่บีอีซีส่งหนังสือมากสทช.เมื่อวันที่ 23 เม.ย. โดยปฏิเสธว่าไม่สามารถทำตามคำสั่งกสทช.ได้ เพราะต้องทำตามข้อตกลงที่กสทช.และบีอีซี ได้ทำร่วมกันที่ศาลปกครองในคดีเลขที่ 1561/2557 เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2557 ที่ให้ช่อง 3HD สามารถออกอากาศโดยใช้ผังรายการเดียวกันที่ช่อง 3 แอนะล็อคทำขึ้น
ล่าสุด ในวันที่ 4 กรกฎาคม กสทช.ได้ส่งหนังสือเตือนไปยังบีอีซีอีกครั้ง โดยเชิญผู้แทนบีอีซีเข้ามาชี้แจงคณะอนุกรรมการพิจารณาอนุญาตด้านกิจการโทรทัศน์ในเรื่องการแยกผังรายการออกจากกันในวันจันทร์ที่ 9 กรกฎาคมนี้
การที่ช่อง 3 ได้ออกอากาศคู่ขนานกับช่อง 3HD นั้น เป็นการทำตามข้อตกลงที่ศาลปกครอง ทั้งๆที่มีข้อคัดแย้ง ตามมาว่า ไม่สามารถทำได้ตามมาตรา 9 ของพรบ.กิจการกระจายเสียง ที่ระบุว่า ผู้ได้รับใบอนุญาตกิจการทีวี จะต้องประกอบกิจการด้วยตัวเอง ทั้งนี้การออกอากาศคู่ขนานนี้ เป็นการดึงสัญญาณจากช่องแอนะล็อคมาออกอากาศ ต่างจากกรณีช่อง 7 และช่อง 9 ที่ได้สิทธิ simulcast เพราะเป็นนิติบุคคลเดียวกันในการประกอบกิจการทั้งทีวีแอนะล็อคและดิจิทัล แต่ช่อง 3 ใช้คนละนิติบุคคล
แต่เมื่อเวลาผ่านไป และระบบทีวีแอนะล็อคของทั้งช่อง 7 และช่อง 9 ที่ได้สิทธิออกอากาศคู่ขนานสิ้นสุดลงตามวันที่ยุติการออกอากาศระบบแอนะล็อค กสทช.จึงมีมติว่าจะไม่ให้มีการ simulcast อีกต่อไป อีกทั้งยังเรียกบีอีซีมาชี้แจงด้วยว่า บีอีซีเข้าข่ายผิดกฏใบอนุญาต