เปิดรายได้ทีวีดิจิทัลทุกช่อง ปี 2561 มีรายได้รวมกันกว่า 2 หมื่นล้านบาท

กสทช. รายได้ทีวีดิจิทัล

ช่อง 7 นำโด่ง แจ้งรายได้สูงสุดของทีวีดิจิทัล ปี 2561 กว่า 4.5 พันล้านบาท จากรายได้รวมของ 22 ช่องทีวีดิจิทัลช่องธุรกิจของเอกชน ที่มีรายได้รวม 20,412.977 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.90% จากปี 2560 ที่มีรายได้รวมกันอยู่ที่ 17,313.706 ล้านบาท

ข้อมูลจากไลน์ทางการ ของ กสทช.ได้เปิดเผยรายได้ผลประกอบการของช่องทีวีดิจิทัลประเภทธุรกิจ 22 ช่องในปี 2561 ซึ่งเป็นข้อมูลที่ทุกช่องได้แจ้งต่อกสทช.เพื่อนำมาคำนวณค่าธรรมเนียมใบอนุญาตที่แต่ละช่องต้องจ่ายเป็นรายปี พบว่า ช่อง 7HD เป็นช่องที่ทำรายได้สูงสุดอยู่ที่ 4,594 ล้านบาท อันดับ 2 เป็นช่องเวิร์คพอยท์ ทำรายได้ 2,626 ล้านบาท และอันดับ 3 โมโน ทำรายได้ 1,818 ล้านบาท  ในขณะที่ช่อง 3HD ทำรายได้ 1,800 ล้านบาท โดยเป็นการรายงานเฉพาะรายได้ไม่มีผลกำไรขาดทุนของแต่ละช่อง

ทั้งนี้รายได้ของช่อง 7HD ที่เป็นรายได้เฉพาะธุรกิจทีวีดิจิทัล สูงขึ้นถึง 1,003 ล้านบาทจากปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ 3,591 ล้านบาท โดยรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นมากนี้ มาจากการที่ช่อง 7 ได้ปิดระบบทีวีแอนะล็อกไปตั้งแต่วันที่ 15 มิถุนายน 2561 จึงทำให้สัดส่วนรายได้จากธุรกิจทีวีของช่อง 7 ที่เคยต้องแบ่งเป็นรายได้จากทีวีแอนะล็อก และดิจิทัล มาอยู่ที่ทีวีดิจิทัลเท่านั้น

ในขณะที่รายได้ของบริษัท กรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด ของกลุ่มช่อง 7 ที่แจ้งไว้ที่กรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ มีรายงานว่า ในปี 2561 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 5,750.07 ล้านบาท สูงกว่าปี 2560  0.45% โดยปี 2560 มีรายได้รวมอยู่ที่ 5,723.92 ล้านบาท และมีกำไรในปี 2561 อยู่ที่ 1,633.28 ล้านบาท

ผลประกอบการบริษัทกรุงเทพโทรทัศน์และวิทยุ จำกัด (ช่อง 7)   (ล้านบาท)

ที่มา กรมพัฒนาธุรกิจการค้า

ในส่วนช่องเวิร์คพอยท์ แจ้งรายได้กับกสทช.ในปี 2561 ไว้ที่ 2,626 ล้านบาท ลดลง 446 ล้านบาทจากปี 2560 ที่แจ้งรายได้ไว้ที่ 3,172 ล้านบาท มาจากความนิยมของช่องลดลง รายได้จึงลดลงด้วย โดยในปี 2560 ช่องเวิร์คพอยท์มีเรตติ้งเฉลี่ยช่องอยู่ที่ 1.001 ในอันดับ 3 เนื่องจากมีรายการ The Mask Singer ที่ประสบความสำเร็จสูง ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง และมีผลต่อรายได้โฆษณาของช่องเพิ่มมากขึ้น แต่ในปี 2561 ช่องเวิร์คพอยท์ยังไม่มีรายการที่สร้างชื่อเสียง ความสำเร็จเช่นเดียวกับรายการ The Mask Singer” จนทำให้เรตติ้งเฉลี่ยช่องลดลงมาอยู่ที่ 0.810 อยู่ในอันดับ 4

โมโน เป็นช่องที่มีรายได้เป็นอันดับ 3 ของปี 2561 โดยมีรายได้อยู่ที่ 1,818 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ 1,566 ล้านบาท ซึ่งโมโนมีจุดเด่นของช่องเป็นรายการภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศ ที่ได้รับความนิยมต่อเนื่อง มีผลต่อเรตติ้ง จนทำให้ช่องมีการปรับราคาค่าโฆษณาสูงขึ้น และมีผลต่อรายได้โฆษณาที่สูงขึ้นด้วย

ส่วนช่อง 3HD เนื่องจากยังมีการออกอากาศคู่ขนานกับช่อง 3 แอนะล็อกอยู่ ซึ่งกลุ่มช่อง 3 ได้รายงานรายได้ในธุรกิจทีวีดิจิทัลไว้คงที่ที่ 1,800 ล้านบาท ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา จนกว่าจะสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2563

ในกลุ่มท็อปเท็น ช่องวัน เป็นช่องที่มีรายได้ในปี 2561 โดดเด่นมากที่สุด โดยมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,622.076 ล้านบาท อยู่ในอันดับ 5 เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้รวมที่ 510.161 ล้านบาท คิดเป็นการเติบโตถึง 217.9% เนื่องจากปี 2561 ช่องวันมีการปรับราคาค่าโฆษณา โดยเฉพาะในช่วงเวลาเย็น และหลังข่าวภาคค่ำ ซึ่งได้มีการปรับผังรายการลงละครไทย ถึง 3 เรื่องต่อวันยาวต่อเนื่อง ตั้งแต่ช่วงเย็น 1 เรื่องจนถึงหลังข่าว 2 เรื่อง และเพิ่มชุดละครในวันศุกร์ และเสาร์ มีส่วนทำให้รายได้ของช่องเพิ่มสูงขึ้นอย่างชัดเจน

นอกจากนี้ช่องไทยรัฐทีวี ยังเป็นอีกช่องหนึ่งที่มีผลงานเด่นเช่นกัน โดยในปี 2561 มีรายได้รวมอยู่ที่ 919 ล้านบาท เพิ่มจากปี 2560 ที่มีรายได้รวม 666 ล้านบาท เป็นผลมาจากรายการข่าวของช่องได้รับความนิยมสูงมากขึ้นในปี 2561 ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยของช่องไทยรัฐทีวี เพิ่มจาก 0.267 ในปี 2560 มาอยู่ที่ 0.410 ในปี 2561

สำหรับในกลุ่มช่องข่าว เนชั่นทีวีเป็นช่องที่มีรายได้สูงสุดในปี 2561 โดยมีรายได้อยู่ที่ 431 ล้านบาท อยู่ในอันดับ 13 เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้ 347 ล้านบาท  ส่วนช่องที่มีรายได้น้อยที่สุดคือช่องวอยซ์ทีวี แจ้งรายได้ไว้เพียง 36 ล้านบาทเท่านั้น ทั้งนี้วอยซ์ทีวีเป็น 1 ใน 7 ช่องที่แจ้งขอคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล

ส่วนช่องในกลุ่มที่แจ้งขอคืนช่อง แต่มีรายได้สูงสุดได้แก่ช่อง 3SD ที่มีรายได้ปี 2561 อยู่ที่  625 ล้านบาท

เพิ่มขึ้นจากปี 2560 ที่มีรายได้อยู่ที่ 496 ล้านบาท รองลงมาคือไบรท์ทีวี มีรายได้ 247 ล้านบาท สปริงนิวส์ 224 ล้านบาท สปริง 26 มีรายได้ 214 ล้านบาท ช่อง 3Family 146 ล้านบาท และช่อง MCOT Family 48 ล้านบาท

(ลิงค์เพจ กสทช.)https://broadcast.nbtc.go.th/academic/?type=NjIwNzAwMDAwMDAy

[embeddoc url=”https://www.tvdigitalwatch.com/wp-content/uploads/2019/07/nbtc-tv-performance2557-61.pdf” viewer=”google”]

Tagged