กสทช. เตรียมเคาะเงินเยียวยาคลื่น 2600 MHz อสมท วันที่ 29 ม.ค. นี้ พร้อมอนุมัติให้ ไทยคมใช้ดาวเทียมต่างชาติชั่วคราวในสภาวะฉุกเฉินได้
นายฐากร ตัณฑสิทธิ์ เลขาธิการคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (เลขาธิการ กสทช.) เปิดเผยว่า เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.. 2563) ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณารายงานผลการพิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขเพื่อทดแทน ชดใช้ และจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ที่ถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ ของคณะอนุกรรมการพิจารณาการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทนในการเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ ที่แต่งตั้งจากบุคคลภายนอก พร้อมรับฟังการชี้แจงจากคณะอนุกรรมการ ซึ่งที่ประชุมยังไม่ได้มีการลงมติแต่อย่างใด โดยจะให้มีการลงมติในวันที่ 29 ม.ค. 2563 ที่จะมีการประชุม กสทช. อีกครั้งหนึ่ง เมื่อวานนี้ที่ประชุม กสทช. ได้มีมติดังนี้
- รับทราบรายงานผลการพิจารณาและเสนอความเห็นเกี่ยวกับการกำหนดวิธีการและเงื่อนไขเพื่อทดแทน ชดใช้ และจ่ายค่าตอบแทนสำหรับผู้ที่ถูกเรียกคืนคลื่นความถี่ย่าน 2500-2690 เมกะเฮิรตซ์ ของคณะอนุกรรมการฯ
- 2.มอบหมายให้คณะอนุกรรมการฯ รับข้อสังเกตของที่ประชุม กสทช. ไปพิจารณาปรับปรุงรายงานของคณะอนุกรรมการฯ ตามข้อสังเกตของที่ประชุม กสทช. และให้นำกลับมาเสนอที่ประชุม กสทช. ใหม่ โดยให้เสนอล่วงหน้า 3 วัน (ภายในวันที่ 24 ม.ค. 2563) ก่อนการประชุม กสทช. ในวันที่ 29 ม.ค. 2563 ซึ่งที่ประชุม กสทช. จะได้มีการพิจารณาเรื่องนี้ต่อไป
นายฐากร กล่าวว่า ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณากรณีบริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ขออนุญาตใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติตามแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉินเนื่องจากมีเหตุขัดข้องของระบบแจ้งสถานะของดาวเทียมไทยคม 5 แต่ระบบควบคุมสั่งการอื่นยังใช้การได้และยังไม่มีผลกระทบต่อลูกค้าผู้ใช้บริการ ตามที่บริษัทได้มีหนังสือมา ขณะเดียวกันกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ก็ได้มีหนังสือด่วนที่สุด ที่ ดศ. 0407/57 ลงวันที่ 7 ม.ค. 2563 แจ้งขอให้ กสทช. พิจารณาการขออนุญาตจัดหาช่องสัญญาณต่างประเทศตามแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉินตามที่บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ร้องขอ
ที่ประชุม กสทช. ได้พิจารณาแล้วพบว่า กรณีดังกล่าว เป็นกรณีเร่งด่วนเนื่องจากส่งผลกระทบต่อประโยชน์สาธารณะ อาจส่งผลให้ประชาชนไม่สามารถรับชมรายการโทรทัศน์ที่ส่งสัญญาณออกอากาศผ่านดาวเทียมไทยคมได้ จึงได้มีมติเห็นชอบให้บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติตามแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉิน ดังนี้
- อนุญาตให้ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติ จากดาวเทียม KTSat 8 ดาวเทียม Measat 3 Measat 3A และดาวเทียม Apstar 7 รวมกันจำนวนไม่เกิน 5.50 ทรานสปอนเดอร์ เป็นการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 15 มกราคม 2563 จนถึงไม่เกินวันสิ้นสุดสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศ (วันที่ 10 กันยายน 2564) เพื่อให้บริการ วงจรดาวเทียมสื่อสารทดแทนตามสัญญาดังกล่าว
- บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ต้องบริหารจัดการโอนย้ายผู้ใช้บริการวงจรดาวเทียม (ทรานสปอนเดอร์) ของดาวเทียมไทยคม 5 เดิม ไม่ให้ได้รับผลกระทบ โดยเฉพาะผลกระทบต่อผู้ใช้บริการที่เป็นผู้ได้รับอนุญาตประกอบกิจการโทรคมนาคมและผู้ประกอบกิจการโทรทัศน์จาก กสทช. ทั้งนี้ ในกรณีที่จำเป็น กสทช. อาจกำหนดให้ส่งแผนเยียวยาผู้ใช้บริการที่ได้รับผลกระทบให้ กสทช. พิจารณาด้วย
- การอนุญาตดังกล่าวเป็นการอนุญาตตามแผนการบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม 5 ในภาวะฉุกเฉิน ซึ่งคู่สัญญาตามสัญญาดำเนินกิจการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศได้เห็นชอบร่วมกันไว้แล้วเท่านั้น ไม่อนุญาตให้ บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) นำช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติข้างต้นไปให้บริการนอกเหนือจากแผนการบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม๕ในภาวะฉุกเฉิน
- บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ต้องแจ้งให้ กสทช. ทราบ กรณีมีการเปลี่ยนแปลงของแผนบริหารจัดการดาวเทียมไทยคม ๕ ในภาวะฉุกเฉิน หรือมีผลกระทบต่อผู้ใช้บริการอย่างมีนัยสำคัญ
- เมื่อประกาศ กสทช. เรื่อง หลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตใช้ช่องสัญญาณดาวเทียมต่างชาติในการให้บริการในประเทศ มีผลบังคับแล้ว บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ต้องดำเนินการให้เป็นไปตามประกาศดังกล่าวให้ครบถ้วนโดยเร็วต่อไป
- เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายแก่ทางราชการ ให้กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ดำเนินการให้บริษัท ไทยคม จำกัด (มหาชน) ปฏิบัติตามสัญญาดำเนินกิตการดาวเทียมสื่อสารภายในประเทศตามที่ได้มีการลงนามผูกพันตามสัญญาให้ถูกต้องครบถ้วน