ระบบทีวีอนาล็อคเกิดขึ้นในประเทศไทยมาตั้งแต่ปี 2495 ทางช่อง 4 บางขุนพรหม หรือช่อง 9 ในปัจจุบันด้วยระบบขาวดำ จนมาเป็นสีในปี 2510 ทางช่อง 7 จนถึงปัจจุบัน
เมื่อปี 2556 ประเทศไทยได้เปิดประมูลทีวีดิจิทัล และเริ่มก้าวเข้าสู่ระบบทีวีดิจิทัลเป็นทางการในเดือนพฤษภาคม 2557 ซึ่งกสทช.ได้วางโรดแมปการปิดระบบอนาล็อคทั่วประเทศให้เข้าสู่ยุคทีวีดิจิทัลทั้งประเทศ และจะได้นำคลื่นความถี่ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดภายในปี 2561 แต่ติดปัญหาที่ยังมีสัญญาสัมปทานของช่อง 7 และช่อง 3 ที่จะหมดอายุในปี 2566 และ 2563 กสทช.จึงขอร้องให้คู่สัญญาไปเจรจากันเองว่าจะปิดระบบอนาล็อคได้เร็วที่สุดเมื่อไร
คู่สัญญาระหว่างททบ.5 และช่อง 7 ได้มีข้อสรุปยุติระบบอนาล็อคในวันที่ 17 มิ.ย.พร้อมๆกับช่อง 5 โดยที่ยังไม่ยกเลิกสัญญาสัมปทาน ช่อง 7 จะยังคงจ่ายค่าสัมปทานปีละประมาณ 150 ล้านบาทให้กับทางกองทัพบกต่อไปจนถึงสิ้นสุดสัญญาสัมปทานในปี 2566 ส่วนไทยพีบีเอสได้ยุติระบบอนาล็อคไปแล้วเมื่อคืนวานนี้ 15 มิ.ย. 2561
ส่วนช่อง 3 ที่มีสัมปทานอยู่กับอสมท.นั้น มีความแตกต่างจากสัปมทานของช่อง 7 กับททบ.5 จึงไม่สามารถแก้ไขเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขสัญญาสัมปานได้อีก จึงจำเป็นต้องคงระบบทีวีอนาล็อคของช่อง 3 ไปจนกว่าจะหมดอายุสัมปทาน จึงทำให้ช่อง 3 เป็นช่องสุดท้ายที่ยังคงมีระบบทีวีอนาล็อคไปจนถึงปี 2563
ส่วนอสมท.มีแผนปิดระบบอนาล็อคในวันที่ 16 ก.ค.61 พร้อมๆกับช่อง 11 ทั้งนี้อสมท.เปิดเผยว่า การปิดระบบอนาล็อคจะช่วยให้อสมท.ลดค่าใช้จ่ายลงได้ประมาณ 40- 50 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามการปิดระบบอนาล็อคของแต่ละช่องนั้น ไม่มีผลต่อการวัดเรตติ้งของแต่ละช่อง เนื่องจากการเก็บข้อมูลเรตติ้งได้มีการทยอยปรับเปลี่ยนเป็นระบบดิจิทัลเกือบหมดแล้ว
