หลังจากเป็นประเด็นร้อนที่กลุ่มช่อง 3 จะมีการปรับลดพนักงานประมาณ 200 คน เพื่อให้สอดคล้องกับการคืน 2 ช่องทีวีดิจิทัลให้กับกสทช.จนทำให้ “บี๋-อริยะ พนมยงค์” กรรมการผู้อำนวยการบริษัทบีอีซี เวิลด์ ของกลุ่มช่อง 3 ต้องออกสารชี้แจงพนักงานยอมรับว่าต้องมีการปรับลดพนักงานลงจริง แต่จะทำตามความจำเป็น และจ่ายค่าชดเชยพิเศษให้มากกว่าที่กม.กำหนด
วันนี้ (9 ก.ค. 2562) ราคาหุ้นของบีอีซี เวิลด์ ในตลาดหลักทรัพย์มีการปรับตัวสูงขึ้นถึง 6.11% โดยเปิดตลาดที่ราคา 9.05 บาทต่อหุ้น มีการเสนอซื้อสูงสุดถึงที่ราคา 9.65 บาทต่อหุ้น และปิดตลาดที่ราคา 9.55 บาทต่อหุ้น โดยมีปริมาณซื้อขาย 489,932,000 บาท
นักวิเคราะห์หลักทรัพย์เปิดเผยว่า ราคาหุ้นบีอีซีที่เพิ่มขึ้นมานั้น เป็นผลมาจากข่าวการปรับลดพนักงานของบริษัท เพื่อลดขนาดองค์กร รองรับการคืน 2 ช่องทีวีดิจิทัล ที่บรรดานักลงทุนเห็นว่าเป็นข่าวที่มีผลบวกต่อการลงทุน นอกเหนือจากการได้รับเงินชดเชยจากกสทช.ในการคืนช่อง จึงเข้ามาลงทุนในหุ้นกันเป็นจำนวนมาก
หุ้นบีอีซี เวิลด์เคยขึ้นสูงสุดในเดือนก.พ.2556 ช่วงก่อนที่จะมีทีวีดิจิทัล ที่ราคา 79.5 บาทต่อหุ้น และค่อยๆลดลงมา โดยมีราคาที่ตกต่ำที่สุดที่ 4.66 บาทต่อหุ้นเมื่อวันที่ 4 ม.ค.ปีนี้
เสนอเงินชดเชยพิเศษ 3 เดือนสำหรับคนลาออก
มีรายงานข่าวว่า ฝ่ายบริหารของบีอีซี เวิลด์ได้มีข้อสรุปว่า จะเสนอให้เงินชดเชยเพิ่มพิเศษให้กับพนักงานที่จะเข้าโครงการลาออกในรอบนี้อีก 3 เดือนจากกฎหมายแรงงานที่กำหนด ซึ่งจะทำให้ได้รับเงินชดเชยระหว่าง 4 -16 เดือนขึ้นอยู่กับอายุงานของแต่ละคน
ทั้งนี้ตามกฎหมายแรงงาน หากพนักงานที่ทำงานติดต่อกันครบ 120 วัน แต่ไม่ถึง 1 ปี จะได้รับเงินชดเชยตามกฎหมาย 1 เดือน และสูงสุดหากทำงานครบ 20 ปีขึ้นไปจะได้เงินชดเชย 13 เดือน ซึ่งทั้งหมดจะได้รับเงินเพิ่มพิเศษอีก 3 เดือน
กลุ่มช่อง 3 มีพนักงานทั้งหมดประมาณ 1,700 คน ซึ่งเป็นผลมาจากการปรับลดพนักงานไปแล้วถึง 2 ครั้งในปี 2561 ที่ผ่านมา โดยการปรับลดพนักงานครั้งนี้ ตั้งเป้าให้กระบวนการเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนก.ค.นี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการคืนช่อง ที่จะยุติการออกอากาศในสิ้นเดือนก.ย.นี้