เปิดเบื้องหลังช่อง 3 สั่งเพิ่มตอนพิเศษ “บุพเพสันนิวาส” วาง “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ต่อ ตอนแรก 25 เม.ย.นี้
ความฮอตแบบหยุดไม่อยู่ของละคร “บุพเพสันนิวาส” สร้างปรากฏการณ์ต่างๆเกิดขึ้นมากมายในสังคม สำหรับช่อง3 แล้ว เมื่อละครติดลมบนไปแล้ว จึงไม่พลาดที่จะต้องสร้างกระแสต่อเนื่องให้นานที่สุด เมื่อละครที่กำหนดไว้เดิมมีทั้งหมด 15 ตอน จะถึงกำหนดจบในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ตามแผนเดิมคือจะต่อด้วยละครพีเรียดอิงประวัติศาสตร์เรื่องใหม่ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ทันที
แต่ช่วงเวลาวันหยุดยาวช่วงสงกรานต์นั้น เป็นเทศกาลใหญ่ประจำปีที่รับรู้กันในวงการทีวีว่าเป็นอีกช่วงหนึ่งที่ ผู้คนอยู่ในช่วงการเดินทาง เฉลิมฉลอง ทำให้ผู้ชมที่จะเฝ้าติดจอดูทีน้อยลง เรตติ้งไม่สูงมาก อีกทั้งยังเป็นช่วงที่บรรดาเอเจนซี่และลูกค้าไม่ซื้อเวลาโฆษณาเหมือนเวลาปกติ การนำละครใหม่เข้ารับไม้ต่อจากความปังของ “บุพเพสันนิวาส” น่าจะไม่เป็นผลดีมากกว่า เพราะจะมีผลกระทบต่อละครใหม่ที่รับช่วงต่ออย่าง “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” อย่างแน่นอน
ช่อง3 จึงแก้เกมใหม่ ด้วยการแจ้งค่ายบรอดคาซท์ ผู้จัดละคร “บุพเพสันนิวาส” เพื่อทำตอนพิเศษ ที่จะไม่กระทบอรรถรสความสนุกของธีมละครทั้งเรื่อง จนได้บทสรุปว่า จะตัดต่อจากละครที่ออกอากาศไปแล้ว ทำตอนพิเศษขึ้นมาทั้งหมด 3 ตอน เป็นรูปแบบที่โฟกัสที่มาตัวละครหลักๆ เช่นการะเกด และเบื้องหลังการถ่ายทำ เพื่อออกอากาศต่อเนื่องหลังจากละครจบลงในวันที่ 11 เม.ย.นี้ ต่อในวันที่ 12, 18 และ 19 เม.ย. โดยที่ “หนึ่งด้าวฟ้าเดียว”ของค่ายทีวีซีน จะเลื่อนไปออนแอร์ตอนแรกในวันที่ 25 เม.ย. ในช่วงที่เลยเทศกาลวันหยุดเข้าสู่สถานการณ์ปกติ win win กันทั้งละครเรื่องเดิม, ละครใหม่ และช่อง 3 เอง
ด้วยวิธีการนี้ช่อง3 ยังสามารถขายโฆษณาใน 3 ตอนพิเศษเพิ่มขึ้น สร้างรายได้เข้าช่องเพิ่มขึ้น แม้ว่าในช่วงสงกรานต์บรรดาลูกค้าจะเทงบโฆษณาน้อยอยู่แล้ว แต่ก็เชื่อว่า ความแรงของ“ออเจ้า” จะทำให้สินค้าให้ความสนใจลงโฆษณามากขึ้น เพราะปัจจุบันโฆษณาของละครเรื่องนี้เต็มทุกช่วงเวลา เรตติ้งสูงต่อเนื่องไปทั้งช่วงก่อนและหลังเข้าละคร
“หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” พีเรียดปลุกกระแสรักชาติ
“หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” ละครอิงประวัติศาสตร์ จากนวนิยายชื่อดังของ “วรรณวรรธน์” ผู้แต่งคนเดียวกับ”ข้าบดินทร์”ที่สร้างเป็นละครมาแล้วในปี 2558 โดย”ทีวีซีน”ทางข่อง 3 เช่นกัน เป็นเรื่องราวอิงประวัติศาสตร์ในยุคปลายกรุงศรีอยุธยาก่อน และหลังเสียงกรุง จนถึงสมัยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราช แห่งกรุงธนบุรี เป็นนวนิยายอีกเรื่องที่เดินเรื่องโดยมุมมองของฝ่ายชายแทนที่จะเป็นฝ่ายหญิงเหมือนนิยายทั่วไป
เรื่องของ “ขันทอง” ชายหนุ่มลูกครึ่งไทย ตุรกี ที่มีหน้าสวยราวกับผู้หญิง ปลอมตัวเข้ามาเป็น“ออกพระศรีขันทิน” “ขันที” ในวังหลวงอโยธยา เพื่อสืบเรื่องราวความลับของคนทรยศชาติ ในช่วงที่กรุงศรีอยุธยากำลังละแตก และต้องเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับ“แม่แมงเม่า” สาวน้อยจอมแก่น แสนซน ลูกเศรษฐี ที่มีความสามารถในการใช้กลบท การแต่งกลอนรูปแบบที่ซ่อนความหมาย ความลับ ซึ่งจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถจึงจะแปลกลบทเหล่านั้นออก กลบทเป็นที่นิยมกันทั่วไปในหมู่ของ“นางใน”แห่งวังหลวง ความสัมพันธ์ของทั้งสองคนที่ต้องมาช่วยกันตามสืบความลับในวังหลวง พัฒนากลายเป็นความรักความผูกพันกัน หนีจากสภาพกรุงศรีอยุธยาแตก ไปเริ่มต้นชีวิตในยุคของพระเจ้าตากสิน ที่มี”กรุงธนบุรี”ราชธานีแห่งใหม่
ละครเรื่องนี้มีการปรับเปลี่ยนให้เน้นเรื่องความรักชาติ เข้ามาเพิ่มเติม เพื่อปลุกกระแสความเสียสละ ของบรรพบุรุษไทย ที่สร้างชาติไทยขึ้นมาจนถึงทุกวันนี้ ที่หวังว่าจะสร้างความกระความนิยมไทยและให้คนไทยสนใจศึกษาประวัติศาสตร์ขึ้นมาต่อเนื่อง ได้“เอกลิขิต” ที่เคยเขียนบทให้กับ“ข้าบดินทร์”มาเป็นผู้เขียนบทเรื่องนี้
สำหรับชื่อเรื่อง “หนึ่งด้าว” คือคนต่างชาติ คือขันทอง แม้จะถูกมองว่าเป็นคนต่างด้าว แต่ก็มีความรักชาติไม่แพ้คนไทยคนอื่น นำแสดงโดย “เจมส์ จิรายุ” และ “แต้ว ณัฐพร” โดยมี “อั้ม อธิชาติ”แสดงเป็นพระเจ้าตากสิน
ต่อไปนี้ก็ต้องดูผลตอบรับจากผู้ชมในแง่เรตติ้ง ในภาคพิเศษจะพุ่งแรงต่อเนื่องไปอีกหรือไม่ และละครเรื่องใหม่“หนึ่งด้าวฟ้าเดียว” จะสานต่อความเปรี้ยงปังของ “บุพเพสันนิวาส”ต่อไปได้ไหม
