คำถามที่เกิดขึ้นหลังจากที่ทีวีดิจิทัลแต่ละช่องทยอยลาจากไปจากการคืนช่อง คือ เลขช่องทีวีดิจิทัลที่หายไป 7 ช่อง รวมกับ 2 ช่องเดิมของกลุ่มไทยทีวีของ “เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล” รวมทั้งหมด 9 เลขช่อง ที่เป็น 3 ช่องหมวดช่องเด็ก 5 ช่องหมวดช่องข่าว และ 2 ช่องหมวดช่อง SD วาไรตี้ กสทช.จะจัดการอย่างไรต่อไปนั้น
พ.อ.นที ศุกลรัตน์ รองประธานบอร์ดกสทช.และประธานคณะอนุกรรมการกิจการกระจายเสียง เปิดเผยว่า จะไม่มีการเปลี่ยนหมายเลขช่องของแต่ละช่องที่ยังดำเนินการอยู่ทั้งหมด เพราะหมายเลขช่องที่แต่ละช่องได้มานั้น เป็นการเลือกที่ผูกพันกับผลการประมูลทีวีดิจิทัลในปลายปี 2556 โดยที่ผู้ที่ประมูลในราคาสูงสุดของแต่ละหมวดจะได้สิทธิ์ในการเลือกหมายเลขช่องก่อนรายอื่น
ช่องที่ประมูลในราคาสูงสุดของแต่ละหมวดช่องทีวีดิจิทัล ในปลายปี 2556 เพื่อได้สิทธิ์เลือกหมายเลขช่องก่อน ได้แก่ บีอีซี มัลติมีเดีย ประมูลราคาสูงสุดในหมวดช่อง HD วงเงิน 3,530 ล้านบาท เพื่อเลือกเลขช่องเลข 33 หรือช่อง 3 HD , บริษัท ไทย บรอดคาสติ้ง ประมูลราคาสูงสุดในหมวดช่อง SD วงเงิน 2,355 ล้านบาท เพื่อเลือกเลขช่อง 23 ช่องเวิร์คพอยท์ , บริษัท เอ็นบีซี เน็กซ์ วิชั่น ประมูลราคาสูงสุดในหมวดช่องข่าว วงเงิน1.338 ล้านบาท เพื่อหมายเลข 22 ช่องเนชั่นทีวี และ บีอีซี มัลติมีเดีย ประมูลราคาสูงสุด 666 ล้านบาท ในหมวดช่องเด็ก เพื่อเลือกหมายเลขช่อง 13 หรือช่อง 3Family
“อีกเหตุผลหนึ่ง ที่ไม่ให้มีการเปลี่ยนหมายเลขช่อง เพราะแต่ละช่องได้ออกอากาศ และประชาสัมพันธ์หมายเลขช่องมาตั้งแต่เปิดสถานีอยู่แล้ว จึงไม่ควรมีการเปลี่ยนแปลงหมายเลขช่อง เพื่อป้องกันไม่ให้ผู้ชมเกิดความสับสนอีก” พ.อ.นทีกล่าว
อย่างไรก็ตามกลุ่มเลขช่องที่จะหยุดออกอากาศ จะมีรวมทั้งหมด 9 ช่องในสิ้นเดือนก.ย.นี้ ได้แก่หมายเลข 13,14,15 17,19, 20, 21, 26 และช่อง 28 ทำให้มีช่องที่อยู่ตรงกลางระหว่างเลขช่องที่หายไป ได้แก่ ช่อง TNN 16 , ช่อง NEW TV ช่อง 18 และช่อง 8 ในเลขช่อง 27
ส่วนหมายเลขช่องที่หายไปในการรับชมทีวีดิจิทัลผ่านกล่องดาวเทียมและเคเบิลทีวีต่างๆนั้น กสทช.ยังอยู่ระหว่างการพิจารณา ยังไม่มีข้อสรุปในเรื่องนี้แต่อย่างใด
ปัจจุบันการรับชมในกล่องทีวีดิจิทัล และกล่องทีวีดาวเทียม หรือเคเบิลทีวี ยังต้องเรียงหมายเลขช่องตามกฏกสทช. โดยช่องทีวีดิจิทัลที่เริ่มทยอยยุติออกอากาศ จะคงภาพแถบสีบนหน้าจอของแต่ละช่องแทน