บริษัทโมโน เทคโนโลยี ได้แจ้งตลาดหลักทรัพย์ ถึงผลประกอบการในไตรมาส 3 ของปี 2562 ว่า บริษัทมีผลประกอบการขาดทุน 177.41 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 107.42 ล้านบาทหรือ 153.48% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันของปี 2562 ที่มียอดขาดทุนอยู่ที่ 69.99 ล้านบาท โดยมีปัจจัยหลักมาจากการลดลงของรายได้จากโฆษณาทางทีวีดิจิทัล ในขณะที่รายได้รวมของไตรมาส 3/2562 อยู่ที่ 526.84 ล้านบาท ลดลง 40.64 ล้านบาท หรือ 8.61% เมื่อเทียบกับรายได้รวมของไตรมาส 3/2561 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 576.48 ล้านบาท
รายได้โฆษณาทีวีลด 7.89%
ไตรมาส 3 ปีนี้เป็นไตรมาสแรกที่ ที่รายได้จากโฆษณาทีวีของช่อง Mono ลดลง โดยมีรายได้จากค่าโฆษณาอยู่ที่ 405.28 ล้านบาท ลดลง 34.70 ล้านบาท หรือ 7.89% จาก 439.98 ล้านบาท ซึ่งบริษัท โมโนฯ ชี้แจงว่ารายได้ที่ลดลง เป็นผลมาจากการแข่งขันที่รุนแรง เป็นผลมาจากช่องในอันดับ Top5 มีเรตตติ้งเติบโตมาก อีกทั้งยังมีการจัดโปรโมชั่น เพื่อดึงเงินโฆษณาในช่วงเวลาดังกล่าว
ทั้งนี้กลุ่มช่อง Top 5 เรียงตามอันดับ ได้แก่ ช่อง 7 ช่อง 3 ช่อง Mono ช่องเวิร์คพอยท์ และช่อง one ซึ่งในช่วงไตรมาสที่ผ่านมา ช่อง One เป็นช่องที่มีการเติบโตจากรายการในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ จากชุดรายการช่วงเย็น และค่ำ
ก่อนหน้านี้ในไตรมาสที่ 1 /2562 โมโนรายงานว่ามีรายได้โฆษณาทีวีอยู่ที่ 481.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.26% โดนส่วนใหญ่เป็นผลมาจากการปรับราคาค่าโฆษณาเพิ่มขึ้น 50% ในเดือนมี.ค. ส่วนไตรมาสที่ 2 /2562 มีรายได้โฆษณาอยู่ที่ 528.30 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากไตรมาสที่ 2 ปี 2561 ที่มีรายได้อยู่ที่ 488.13 ล้านบาท ดังนั้นไตรมาส 3/ 2562 จึงเป็นไตรมาสแรกที่รายได้จากโฆษณาลดลง
บริการ Monomax ดูหนังเสียตังค์ โต 100%
ส่วนกลุ่มรายได้อื่นๆนั้น กลุ่มรายได้จากบริการโทรศัพท์เคลื่อนที่ยังคงลดลง 20.37 ล้านบาท หรือ 52.24% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 3 ของปี 2561 มาอยู่ที่ 18.62 ล้านบาท แต่รายได้จากบริการ Monomax ซึ่งเป็นการจ่ายค่าสมาชิกรับชมรายการ เพิ่มขึ้น 100.13% จาก 7.71 ล้านบาทในไตรมาส 3 ปี 2561 มาอยุ่ที่ 15.43 ล้านบาท แสดงให้เห็นว่าผู้ชมมีแนวโน้มความนิยมจ่ายค่าบริการสมาชิกเพื่อรับชมภาพยนตร์ใหม่ๆมากขึ้น ซึ่งบริการเหล่านี้มีผู้ให้บริการต่างประเทศอย่าง Netflix เป็นผู้ให้บริการรายใหญ่