บริษัท บีอีซี เวิลด์ หรือกลุ่มช่อง 3 แจ้งผลประกอบการของ ไตรมาส 3 /2563 ต่อตลาดหลักทรัพย์ว่า รายได้รวมของบริษัท อยู่ที่ 1,322.8 ล้านบาท ลดลง 847 ล้านบาท หรือ 39% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 ปีที่แล้ว ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 2,169.8 ล้านบาท
-รายได้หลักของ BEC ยังคงเป็นธุรกิจรายได้จากขายเวลาโฆษณา และรายได้จากใช้ลิขสิทธิ์ ที่มีสัดส่วน 86.4 %และ 12.8 % ของรายได้รวมตามลำดับ
-กลุ่มรายได้จากคอนเสิร์ตได้รับผลกระทบจาก COVID-19 ที่ไม่สามารถจัดคอนเสิร์ตได้ แต่สัดส่วนรายได้จากคอนเสิร์ต มีสัดส่วนไม่ถึง 1 % ของรายได้รวม
สำหรับรายได้จากขายเวลาโฆษณาส่วนใหญ่ เป็นการขายโฆษณาในช่อง 3 ซึ่งไตรมาสนี้ รายได้โฆษณาลดลง 32.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันปี 62 โดยมีสาเหตุมาจาก นาทีขายโฆษณาที่ลดลงจากการแข่งขันด้านราคาสูงมากขึ้น และเป็นผลมาจากการหดตัวอย่างมากของเม็ด เงินโฆษณาตามผลกระทบของ COVID-19 สอดคล้องกับ รายงานของ นีลเส็น เปิดเผยมูลค่า ประมาณการเม็ดเงินโฆษณา ใน 9 เดือนแรกปี 2563 ของกลุ่ม โทรทัศน์ อยู่ที่ 76,592 ล้านบาท ลดลง 14,103 ล้านบาท หรือลดลง 15.5% เมื่อเทียบกับ 9 เดือนแรกปี 2562
แต่ตัวเลขนาทีโฆษณาเมื่อเทียบกับไตรมาส 2/63 จะพบว่ามีนาทีโฆษณาเพิ่มขึ้น 28.9% แสดงให้เห็นว่ามาตรการผ่อนคลายการระบาดของโควิด-19 มีผลให้มีความต้องการใช้นาทีโฆษณามากขึ้น
รายได้จากใช้ลิขสิทธิ์ไตรมาส 3 /2563 อยู่ที่ 169.2 ล้านบาท ลดลง 92.5 ล้านบาท หรือ 35.3% จาก ไตรมาส 3 / 2562 จากการขายลิขสิทธิ์ละครไปยังต่างประเทศลดลงจากไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
ในขณะเดียวกันรายได้จากออนไลน์ผ่านแพลตฟอร์มของกลุ่ม BEC ลดลงด้วยเช่นกัน เพราะใช้ละครรีรันในผังรายการมากขึ้น จึงทำให้มีคอนเทนต์ใหม่ๆในแพลตฟอร์มลดลง
รายได้จากขายสินค้าของ BEC ไตรมาส 3 /2563อยู่ที่ 9.3ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.9 %ไตรมาส 3 / 2562 แต่รายได้จากขายสินค้าของ BEC มีสัดส่วนไม่ถึง 1 % ของรายได้รวมซึ่งน้อยมากซึ่งน้อยมากเมื่อเทียบกับคู่แข่งเช่น RS
ค่าใช้จ่ายรวมของกลุ่ม BEC ไตรมาสนี้อยู่ที่ 950.7 ล้านบาท ลดลง 52.7% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีก่อนหน้า นอกจากนี้ต้นทุนการขายและบริการอยู่ที่ 950.4 ล้านบาท ลดลง 45.9 ล้านบาทเมื่อเทียบไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วเช่นกัน เนื่องจากมีการลดต้นทุนการผลิตละคร และการจัดผังรายการรีรันลงช่วงเวลาไพรม์ไทม์
จากรายได้ที่เพิ่มขึ้น และมีการลดต้นทุนค่าใช้จ่ายได้มากขึ้น และการปรับโครงสร้างองค์กรให้เล็กลง ทำให้ไตรมาส 3 /63 BEC มีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 60.1 ล้านบาท แต่กำไรลดลง 33.4 ล้านบาท หรือ 35.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 3 / 2562
ทั้งนี้ BEC ได้มีการเปลี่ยนแปลงผู้บริหารในวันที่ 1 ก.ค.ที่ผ่านมา โดย “สุรินทร์ กฤตยาพงศ์พันธุ์” มารับตำแหน่ง กรรมการผู้อำนวยการสายธุรกิจโทรทัศน์