เรตติ้งในรอบ 9 เดือนของปี 2561 เมื่อเทียบกับปี 2560 ช่องเวิร์คพอยท์มีเรตติ้งลดลงสูงสุดในจำนวน 25 ช่องทีวีดิจิทัล จากเรตติ้งเฉลี่ย 1.073 อันดับ 3 ในปี 2560 ลงมาอยู่ที่ 0.803 ในอันดับ 4 ปีนี้ หลังจากที่ยังไม่มีรายการวาไรตี้ใหม่ๆ แรงขึ้นมาสร้างความนิยมได้เหมือน The Mask Singer ที่ประสบความสำเร็จสูงสุดเมื่อปีที่แล้ว
ในช่วงต้นปี The Mask Singer ยังเป็นรายการมีเรตติ้งสูง แต่โชคไม่ดีที่มาชนกับละคร “บุพเพสันนิวาส”ช่อง 3 เรตติ้งจึงลดต่ำลงเรื่อยๆ ในช่วงไตรมาส 3 ของปีนี้ รายการที่ช่องผลิตเอง ที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่อง คือ รายการวาไรตี้ร้องเพลงตระกูลไมค์ “ไมค์ทองคำ” ที่ออกอากาศในช่วงเย็นวันเสาร์-อาทิตย์ ส่วนวันธรรมดา ส่วนช่วงไพรม์ไทม์ของวันทำงาน เหลือเพียงรายการ “ I can see your voice หรือนักร้องซ่อนแอบ” ที่ทำเรตติ้งสูงกว่าทุกรายการ ทั้งกลุ่มรายการ The Mask และรายการใหม่ๆ ตั้งแต่ Thailand’s got talent, หรือ The Rapper
ในช่วงเดือนส.ค.-ต.ค เวิร์คพอยท์ได้รายการกีฬา 2 รายการ คือ เอเชียนเกมส์ 2018 และศึกวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2018 เข้ามาช่วยดึงเรตติ้ง ความนิยมของช่องกลับคืนมาได้บ้าง แต่เมื่อหมดเทศกาลกีฬาไป ก็ตกมาอยู่ในอันดับ 4 ตามหลังโมโนเช่นเดิม
เมื่อดูเรตติ้งเฉลี่ยรายชั่วโมงใน 5 ชั่วโมงทองของทุกวัน ตั้งแต่ 18.00-23.00น. เรตติ้งปี 61 ลดลงในทุกชั่วโมง โดยเฉพาะช่วงไพรม์ไทม์ลดลงสูงสุด
ส่วนช่วงวันหยุดเสาร์-อาทิตย์ ที่มีรายการ “ไมค์ทองคำ”เป็นตัวชูโรง เรตติ้งจึงไม่หล่นลงมากเทียบกับช่วงของวันทำงาน โดยที่เรตติ้งช่วงไพรม์ไทม์ของวันทำงานตกลงมากที่สุด
ในช่วงปีนี้ เวิร์คพอยท์มีการลงทุนกับทั้งค่าลิขสิทธิ์เอเชียนเกมส์, วอลเลย์บอล จำนวนมาก อีกทั้งยังมีการร่วมทุนทำรายการใหม่ เช่น รายการ Victory BNK48 เอาใจสาวกโอตะ จัดลงผังทุกวันอังคารช่วงดึก แต่เรตติ้งยังไม่ถึง 1 และต้องลงทุนกับรายการใหม่ๆทั้ง The Rapper และ Thailand’s Got Talent
สถานการณ์เรตติ้งของเวิร์คพอยท์ในช่วงนี้ จึงอยู่ในสถานการณ์น่าเป็นห่วง ที่ต้องรอลุ้นว่า จะมีรายการไหนขึ้นมาเปรี้ยง กู้สถานการณ์ทั้งช่องได้เหมือนปีที่แล้วหรือไม่