รายการพิเศษ การแถลงการณ์ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เวลา 19.00น. วันที่ 16 มี.ค.63 ที่ผ่านมา ดำเนินการโดยกรมประชาสัมพันธ์ ออกอากาศผ่านโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ทุกช่องทีวีดิจิทัล เป็นหนึ่งรายการที่มีผู้ชมให้ความสนใจอย่างมาก หลังจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในประเทศไทย ด้วยความคาดหวังจะได้รับการชี้แจงข่าวสำคัญที่ประชาชนต้องเตรียมพร้อมรับมือสถานการณ์ แต่เนื้อหาในรายการโดยสรุป เป็นการชี้แจงสถานการณ์โดยภาพรวม โดยออกอากาศเพียงแค่ 7 นาที
พร้อมสร้างเซอร์ไพรส์ด้วยการจบท้ายว่า ประเทศไทยต้องชนะ พร้อมกำมือสองข้างขึ้นมา กลายเป็นแฮชแท็ก #ประเทศไทยต้องชนะ ยอดนิยมในทวิตเตอร์ ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของรัฐบาลต่อกรณีการระบาดของโควิด-19 มาอย่างต่อเนื่อง
กระแสในโลกออนไลน์วิจารณ์ตั้งแต่การวางสคริปต์ เนื้อหา ท่าทาง รวมถึงฉากหลัง ที่มาของภาพแถลงข่าว เทปการออกอากาศที่มีการตัดต่อหลายครั้ง จนถึงขั้นตามสืบกันว่า ฉากสีฟ้านั้น มีที่มาจาก template จากเว็บที่ให้ใช้ได้ฟรี
มาดูตัวเลขของผู้ชมทีวีในช่วงเวลาดังกล่าว เฉพาะรายการถ่ายทอดสดรายการนี้ ในช่วงเวลา 19.00-19.07 น. ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่แต่ละช่องออกอากาศรายการปกติ เรตติ้งของการรับชมรายการจึงขึ้นกับรายการที่กำลังออกอากาศด้วยว่า ได้รับความนิยมมากน้อยแค่ไหน
ทั้งนี้กลุ่มช่อง TOP10 รายการนี้ได้แก่ช่อง 7 ช่อง One ช่อง 3 ช่อง Mono ช่องเวิร์คพอยท์ ช่อง 8 ช่องไทยรัฐทีวี ช่องเนชั่นทีวี ช่อง 9 และช่อง True4U ตามลำดับ
เรตติ้งสูงสุดเป็นของช่อง 7 ที่กำลังออนแอร์ละคร “เศรษฐีตีนเปล่า” มีเรตติ้งช่วงแรก 3.669 และช่วงหลังได้ 6.157 ทำให้รายการถ่ายทอดสด ที่คั่นละครช่อง 7 ได้เรตติ้ง 4.872 มียอดผู้ชมต่อนาที 3.149 ล้านคน นับเป็นยอดผู้ชมแบบไม่นับซ้ำในเฉพาะช่อง 7 อยู่ที่ 3.804 ล้านคน
สำหรับยอดผู้ชมแบบไม่นับซ้ำนั้น จะตัดจำนวนผู้ชมที่เปิดดูซ้ำกันในช่องเดียวกันออก เพราะพฤติกรรมบางคนอาจจะเปลี่ยนไปช่องอื่นๆ ระหว่างที่รับชมรายการ
อันดับ 2 เป็นช่อง One ที่รายการเย็น-ค่ำ กำลังมาแรง รายการประกวดร้องเพลง “ดวลเพลงชิงทุน” เรตติ้ง 2.696 คั่นด้วยแถลงการณ์ ได้เรตติ้ง 3.117 และ ละคร “มงกุฎดอกหญ้า” 3.280 มียอดผู้ชมต่อนาที 2.015 ล้านคน นับเป็นยอดผู้ชมแบบไม่นับซ้ำ 2.272 ล้านคน
ช่อง 3 ช่วงเวลานี้ ตกอยู่ในอันดับ 3 จากละครรีรัน “เพลิงบุญ” เรตติ้ง 1.672 มาแถลงการณ์ เรตติ้ง 2.544 และต่อด้วยละคร “ระบำเมฆ” เรตติ้ง 2.816 มียอดผู้ชมต่อนาที 1,644 ล้านคน และเป็นยอดผู้ชมแบบไม่นับซ้ำ 2.029 ล้านคน
ซึ่งจะเห็นได้ว่าเรตติ้งของช่วงเวลานี้จะไม่อิงตามเรตติ้งเฉลี่ยช่อง ขึ้นอยู่กับว่าช่องไหนมีรายการที่ได้รับความนิยมสูงในช่วงเวลานี้ด้วย เช่นช่อง 8 มีละคร “ปอปผีเจ้า” ช่วงแรกเรตติ้ง 0.916 และคั่นด้วยแถลงการณ์ เรตติ้ง 1.290 และ “ปอปผีเจ้า”ช่วงที่ 2 เรตติ้ง 1.581
บทสรุปของสื่อทีวีดิจิทัล ทำให้ได้เห็นว่าเป็นช่องทางที่เข้าถึงผู้ชมได้ครอบคลุมทั่วประเทศในครั้งเดียว แต่ข้อมูลเหล่านี้ยังไม่รวมช่องทางรับชมทีวีดิจิทัลผ่านทางออนไลน์ การไลฟ์ รายงานสดของแต่ละช่องในทางออนไลน์ และการรับชมผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ อย่างไรก็ตามการส่งข่าวสารถึงประชาชนยังมีอีกหลายช่องทาง อยู่ที่การวางแผน เลือกใช้สื่อ และส่งข้อความ ข่าวสารไปยังประชาชนกลุ่มเป้าหมายอย่างมีมีประสิทธิภาพมากที่สุดด้วยเช่นกัน
สุดท้ายนี้ ขอส่งกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ ช้าราชการ แพทย์ พยาบาล และคนไทยทุกคน สามารถต่อสู้กับไวรัสโควิด-19 ฝ่าวิกฤตครั้งนี้ไปให้ได้ ตอนนี้เราทุกคนคงต้องช่วยตัวเองกันไปก่อน #saveตัวเอง #ประเทศไทยต้องชนะ