“ทุ่งเสน่หา” ละครจากบทประพันธ์ของ “จุฬามณี” ที่มีผลงานนวนิยายย้อนยุค สะท้อนชีวิตของผู้คนในท้องถิ่นที่ต้องเผชิญอุปสรรคด้านความรักต่าง จากสถานะที่ต่างกันของครอบครัว ที่ประสบความสำเร็จ ผลิตเป็นละครแล้วหลายเรื่อง ตั้งแต่ “สุดแค้นแสนรัก” และ “กรงกรรม” ซึ่งช่อง 3 ซื้อลิขสิทธิ์ละครชุดนี้ 2 เรื่อง ทั้ง “ทุ่งเสน่หา” และ “วาสนารัก”
ละคร “ทุ่งเสน่หา” ออกอากาศต่อจากละคร “ซ่อนเงารัก” ละครที่มีกระแสในโลกออนไลน์สูง ช่วยส่งต่อมายังละครที่ออกอากาศต่อ ทำให้มีเรตติ้งเปิดตัวตอนแรกอยู่ที่ 2.586 สูงกว่าละครช่วงไพรม์ไทม์ของช่อง 3 ที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกัน โดยทำเรตติ้งอยู่ในระดับเดียวกันต่อเนื่องไป 4 ตอน ตอนที่ 4 มีเรตติ้งต่ำสุดอยู่ที่ 2.567 หลังจากนั้นเรตติ้งเติบโตขึ้นต่อเนื่องในทุกตอน มีเรตติ้งตอนจบอยู่ที่ 5.709 โดยที่มีผู้ชมในพื้นที่ภาคกลาง ที่รวมภาคตะวันออก และตะวันตกสูงสุดอยู่ที่ 7.097 และ กรุงเทพ 6.811
ส่วนเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่ 3.947 เป็นละครช่วงไพรม์ไทม์ ที่มีเรตติ้งสูงสุดของช่อง 3 ในไตรมาสแรกของปีนี้ สูงกว่าละคร “ซ่อนเงารัก” ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 3.208 โดยมีกลุ่มผู้ชมในพื้นที่กรุงเทพรับชมสูงสุด อยู่ที่ 5.434 รองลงมาเป็นภาคกลาง เรตติ้ง 4.582 เนื่องจากเป็นละครแสดงวิถีชีวิตของผู้คนในท้องถิ่น จึงสะท้อนให้เห็นเรตติ้งของกลุ่มผู้ชมในต่างจังหวัดที่มีสูงขึ้น แต่ภาคใต้รับชมน้อยที่สุด เรตติ้ง 2.730
กลุ่มอายุผู้ชมที่รับชมสูงสุด เป็นช่วงอายุ 45-49 ปี เรตติ้ง 5.394 และ อายุมากกว่า 50 ปีขึ้นไป เรตติ้ง 4.672 และกลุ่มผู้หญิงรับชมมากกว่าผู้ชาย 5.126 และ 2.710
ส่วนละครภาคต่อ “วาสนารัก” เรื่องราวความรักของรุ่นลูก ของตัวละครหลักใน “ทุ่งเสน่หา” นั้น ช่อง 3 ยังไม่ได้นำมาออนแอร์ต่อเนื่อง เนื่องจากยังอยู่ระหว่างถ่ายทำ