รายการ “กิ๊ก ดู๋” เริ่มขึ้นในช่อง 7 เมื่อปี 2553 ในรูปแบบวาไรตี้เกมโชว์ ในช่วงบ่ายของวันอาทิตย์ จนมีการปรับมาเป็นรูปแบบรายการแข่งขันร้องเพลง ในปี 2554 และย้ายเวลาออกอากาศมาเป็นช่วงดึกทุกวันอังคารตั้งแต่ปี 2556 ในชื่อ “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงินล้าน” และล่าสุดคือ “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” นอกจากนี้ยังมีรายการในบ่ายวันเสาร์ “กิ๊ก ดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน” ดำเนินรายการโดยพิธีกร 2 คนคู่หู “ดู๋ สัญญา คุณากร” และ “ซูโม่กิ๊ก เกียรติ กิจเจริญ”
ที่ผ่านมา “กิ๊ก ดู๋” เป็นการผลิตร่วมกันระหว่าง เจเอสแอล และทริปเปิ้ลทู ของซูโม่ กิ๊ก และติ๊ก กลิ่นสี ในรูปแบบการเช่าเวลากับทางช่อง 7 แม้จะมีเรตติ้งดี แต่ก็เริ่มยากลำบากในการวิ่งหาโฆษณา กับรายการช่วงดึก จนต้องย้ายช่อง ไปอยู่พีพีทีวี ในต้นปีหน้า ที่จะได้มาออกอากาศในช่วงไพรม์ไทม์ คืนวันอังคาร วันเดียวกับที่เคยออกอากาศทางช่อง 7 แต่ได้เวลาที่ดีกว่าเดิม ทั้งนี้ พีพีทีวี ในนามบริษัท บางกอกมีเดียแอนด์บรอดคาสติ้ง เป็นผู้ว่าจ้าง เจเอสแอล และ ทริปเปิ้ลทู ผลิตรายการ และมีรายได้จากส่วนแบ่งค่าโฆษณาด้วย นับเป็นรายการแรกจากช่อง 7 ที่ย้ายออกตั้งแต่มีทีวีดิจิทัล
ในปีนี้ รายการที่ผลิตโดย ทริปเปิ้ลทู ก็ได้ปิดตัวในช่อง 7 ไปแล้ว ทั้งรายการ “เกมพันหน้า” และ “ร้องแลกไข่” ส่วนของเจเอสแอล ที่ปิดตัวไปเมื่อต้นปี คือ “จันทร์พันดาว”
เท่ากับว่าทั้ง ดู๋ สัญญา คุณากร และ ซูโม่กิ๊ก ที่เคยเป็นพิธีกรที่คุ้นเคยของช่อง 7 จะหายไปจากหน้าจอช่อง 7 โดยที่ “ดู๋ สัญญา” จะมีรายการใหม่ “Divided คนไม่ยอมเกม” ทางช่อง 3 ต้นปีหน้า
ย้อนมาดูเรตติ้งของ 2 รายการ “กิ๊ก ดู๋” ในปีนี้กันว่าเป็นอย่างไร
สำหรับรายการหลัก “กิ๊ก ดู๋ สงครามเพลงเงาเสียง” ในทุกวันอังคารนั้น มีเรตติ้งเฉลี่ยทั่วประเทศอยู่ที่ 2.995 ส่วน “กิ๊ก ดู๋ ซุปตาร์เงินล้าน” อยู่ที่ 1.270 แต่ที่น่าสนใจคือ ทั้ง 2 รายการ มีฐานผู้ชมในกลุ่มกรุงเทพ สูงกว่าต่างจังหวัด ทั้งๆที่ปกติรายการต่างๆของช่อง 7 มีฐานผู้ชมในต่างจังหวัดสูงกว่า
การจะย้ายไปอยู่พีพีทีวี ซึ่งวางเป้าหมายไว้ว่าจะจับฐานลูกค้าในเมือง ซึ่งเป็นกลุ่มเดียวกับช่อง 3 ตามคอนเซปต์ World Class TV น่าจะได้ตรงเป้าหมายมากขึ้น เพราะ “กิ๊ก ดู๋” มีกลุ่มคนดูในกรุงเทพมากกว่าต่างจังหวัดอยู่แล้ว นอกจากนี้กลุ่มฐานผู้ชมที่รับชมมากกที่สุด คือกลุ่มอายุ 50+
เรตติ้งสูงสุดที่รายการนี้ทำได้ในปีนี้ อยู่ที่ 4.178 ลดลงมาจากปีก่อน ที่เคยได้สูงกว่านี้ แต่เพราะการแข่งขันที่สูงมากขึ้น เรตติ้งเฉลี่ยจึงลดลง
อย่างไรก็ตามการย้ายจากช่องอันดับ 1 มาอยู่ช่องนอกกลุ่มท็อปเท็น เรตติ้งคงไม่สูงเท่าที่เคยได้ในช่อง 7 แน่นอน แต่ก็น่าจะเป็นอีกหนึ่งรายการหลักด้านบันเทิง นอกเหนือจาก “The Voice” ที่พีพีทีวีหวังไว้ว่าจะเข้ามาสร้างความนิยม เพิ่มเรตติ้งช่อง ด้วยกลยุทธ์ “เจ้าบุญทุ่ม” ดึงรายการดังในแต่ละช่อง มาเป็นทางลัด สร้างชื่อเสียง ความรู้จักให้กับผู้ชมได้เร็วขึ้น เพื่อเป้าหมายการเป็นช่องหลักของวงการทีวีดิจิทัลในเร็ววัน