ละครเย็น กลายเป็นละครเรียกเรตติ้ง ได้รับความนิยมสูงกว่าละครช่วงไพรม์ไทม์ให้กับทั้งช่อง 7 และช่อง 3 ในช่วงเดือนธันวาคม 2561
ช่อง 7 ละครเย็น เริ่มฟื้นเรตติ้งมาตั้งแต่เรื่อง “เจ้าสาวช่างยนต์” ต่อเนื่องมา “ชะชะช่าท้ารัก” ต่อเนื่องมายัง “ไฮโซสะออน” ช่วยพยุงเรตติ้งช่องในช่วงเดือนต.ค.-พ.ย. 2561 ช่วงที่ละครไพรม์ไทม์เรตติ้งตกต่อเนื่อง ยาวมาจนถึงเดือนธ.ค. ก่อนที่จะได้ “จ้าวสมิง” กลับมาเรียกเรตติ้งละครไพรม์ไทม์คืนมาได้
ปีนี้ทั้งปีช่อง 7 มีละครเย็น 9 เรื่องที่ออกอากาศไปแล้ว โดยเรื่องที่ทำเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดคือ “สารวัตรแม่ลูกอ่อน” ที่ออกอากาศตั้งแต่ปลายปี 2560 ยาวต่อเนื่องมาต้นปี 2561 ทำเรตติ้งเฉลี่ยไว้ที่ 6.87
ส่วนช่อง 3 ละครใหม่ช่วงไพรม์ไทม์ ในช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปีลดลงมาก เรื่องที่ทำเรตติ้งได้สูงสุดในช่วง 2 เดือนนี้ คือ “ประกาศิตกามเทพ” เรตติ้งเฉลี่ยในระดับ 3.19 ส่วนเรื่องอื่นๆได้เรตติ้งเฉลี่ยไม่ถึง 3 ทั้งหมด ละครเย็น “ตราบาปสีชมพู” จึงเป็นละครเย็นที่แบกเรตติ้งของช่องเอาไว้เพียงเรื่องเดียว พร้อมกับการแจ้งเกิดของพระเอกหน้าใหม่ “ภณ -ณวัสน์ ภู่พันธัชสีห์”
ละครเย็นเรื่องที่ทำเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดของช่อง 3 ในปีนี้จากจำนวนทั้งหมด 8 เรื่อง คือ “บุพเพสันนิวาส” ที่นำมารีรันในช่วง 11 พ.ค.-20 ก.ค ยาวถึง 40 ตอน ในช่วงละครเย็น ทำเรตติ้งเฉลี่ยได้ถึง 5.803
ความแตกต่างของละครเย็นช่อง 7 และช่อง 3 คือ ฐานผู้ชมในวงกว้าง ที่ช่อง 7 มีมากกว่าในฐานต่างจังหวัด เมื่อเปรียบเทียบกันระหว่าง “ไฮโซสะออน” และ “ตราบาปสีชมพู” จึงมีตัวเลขเรตติ้งเฉลี่ย และฐานผู้ชมหลักแตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด
“ไฮโซสะออน” ได้ฐานผู้ชมกลุ่มต่างจังหวัด และเป็นกลุ่มเด็กเล็ก อายุ 4-9 ปีเป็นฐานใหญ่สุด ด้วยเรตติ้ง 7.440 ตามมาด้วยกลุ่มอายุ 50+ เรตติ้ง 7.170 ในขณะที่ “ตราบาปสีชมพู” ได้กลุ่มผู้ชมในพื้นที่เมืองในเขตกรุงเทพ และช่วงอายุ 50+ เรตติ้ง 4.011 ตามด้วยช่วงอายุ 40-49 ปี เรตติ้ง 3.669
ความได้เปรียบของช่อง 7 คือ ละครออกอากาศไป ถ่ายทำไป ทำให้สามารถยืดตอน สำหรับละครที่ได้รับความนิยมสูงได้ ในขณะที่ช่อง 3 อยู่ในรูปแบบการถ่ายทำเสร็จล่วงหน้าทั้งหมด
เรตติ้งสูงสุดของ“ไฮโซสะออน” เป็นตอนจบ ที่ช่อง 7 ตั้งใจขยายตอนออกมา เพื่อให้ออกอากาศตอนจบในวันเดียวกันกับ “ตราบาปสีชมพู” ซึ่งเมื่อโดนชนจังๆ เรตติ้งตอนที่สูงที่สุด จึงเป็นตอนที่ 19 จากทั้งหมด 24 ตอน
สำหรับละครเย็นชุดใหม่ของทั้ง 2 ช่อง ที่จะเริ่มพร้อมกันวันที่ 20 ธ.ค.นี้ เป็นการแข่งขันกันเองของบริษัทค่ายฉลอง ภักดีวิจิตร ด้วยละครใหม่ “พ่อตาปืนโต ตอนหลานข้าใครอย่าแตะ” ค่ายพ่อ-ฉลอง ช่อง 7 และ รีรัน “อังกอร์” ฉบับตัดต่อใหม่ ค่ายอาหลอง จูเนียร์ ช่อง 3
นอกจากละครเย็นที่ต้องแข่งกันเองของช่อง 7 และช่อง 3 แล้ว ปัจจุบันละครเย็นช่องวันและช่อง 8 ก็สามารถยกระดับเข้ามาสู้กันได้สูสีมากขึ้น เป็นรายการหลักที่ทำเรตติ้งสูงสุดให้กับทั้งช่องวันและช่อง 8 ด้วยเรตติ้งบางตอนเกิน 2 ไปแล้วด้วยเช่นกัน ด้วยเรื่อง “ขุนปราบดาบข้ามภพ” ช่องวัน และ “ซิ่นลายหงส์”ช่อง 8