ละครบู๊ ระเบิดภูเขาเผากระท่อม กับละครโรแมนติคดราม่า ที่คนดูอาจจะสับสนบ้างเมื่อเปิดเจอครั้งแรกๆ เพราะปกติช่อง 3 จะมีแต่ละครโรแมนติคดราม่าเป็นส่วนใหญ่ ในขณะที่ช่อง 7 มักจะเป็นละครบู๊ แต่เมื่อทุกอย่างกลับด้านกัน การแข่งขันช่วงชิงผู้ชมในชุดละครศุกร์-อาทิตย์ ของทั้ง 2 ช่องจึงเป็นไปด้วยความสนุก
“อังกอร์” จากค่ายลูกอาหลอง ย้ายวิกจากช่อง 7 มาช่อง 3 ด้วยความกดดันพอสมควร เมื่อมาเปิดตลาดในช่องใหม่ จึงต้องเน้นคุณภาพเต็มที่ มี โอม อัชชา และบูม สุภาพร แสดงนำ แม้จะไม่ได้นักแสดงระดับท็อปของช่อง แต่ด้วยบทแข็งแรง การเล่าเรื่อง พล็อตย่อยสนับสนุนได้ดี จากละครนอกสายตา กลายเป็นละครที่ทำเรตติ้งได้สูงสูดของช่อง 3 ในช่วงนี้ จนมีข่าวว่าช่อง 3 คิดจะขยายตอนเพิ่ม แต่ในที่สุดก็ตัดสินใจคงตามแผนเดิมที่ตัดต่อไว้เรียบร้อยแล้ว มีทั้งหมด 13 ตอน จนทำให้เรตติ้งตอนจบได้สูงสุดของช่อง 3 หลังจากจบละครแห่งชาติ “บุพเพสันนิวาส” ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยในตอนจบ 7.305
“เจ้าสาวจำยอม”จากค่ายพอดีคำ ได้นักแสดงเบอร์ท็อปของช่อง ทั้ง มิกค์ ทองระย้า และปุ๊กลุ๊ก ฝนทิพย์ มาจับคู่กันครั้งแรก ความโรแมนติคกุ๊กกิ๊ก เรียกเรตติ้งให้ได้ฟิน จิกหมอนเป็นระยะ “เจ้าสาวจำยอม”ออนแอร์ก่อนหนึ่งอาทิตย์ ส่วนใหญ่มีเรตติ้งดีกว่า มีผลัดกันแพ้ผลัดกันชนะบ้าง แต่เมื่อจะถึงตอนจบ ตามกำหนดจะต้องจบก่อน “อังกอร์” ที่เรตติ้งมาแรงขึ้นเรื่อยๆ เพื่อเปิดทางให้ละครฟอร์มยักษ์ “สายโลหิต” เข้าลุยเปิดตัวก่อน แต่สุดท้ายช่อง 7 ก็ตัดสินใจถอย โดยการเพิ่มตอน “เจ้าสาวจำยอม”ไปอีก 1 ตอน จบพร้อมกับ “อังกอร์” เรตติ้งตอนจบที่ต้องยืดไปอีก 1 ตอนจึงแพ้ “อังกอร์”
แต่เรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง “เจ้าสาวจำยอม” ได้สูงกว่าด้วยเรตติ้งเฉี่ย 5.688 ในขณะที่ “อังกอร์”ได้เรตติ้งเฉลี่ย 5.311
จากข้อมูลรายละเอียดเชิงลึก เรตติ้งของ “อังกอร์” ได้ดึงผู้ชมในกลุ่มผู้ชาย และคนในพื้นที่ต่างจังหวัดมาได้มากกว่าละครปกติของช่อง 3 ส่วน “เจ้าสาวจำยอม” ฐานผู้ชมยังเป็นกลุ่มคนในต่างจังหวัดและเป็นผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย
ที่น่าสนใจคือทั้ง 2 เรื่อง มีกลุ่มผู้ชมหลักเป็นช่วงอายุเดียวกันคือ 45-49 ปี กลุ่มที่ชมน้อยที่สุดของเจ้าสาวจำยอม คือ 20-24 ปี ส่วนอังกอร์เป็นช่วงอายุ 6-9 ปี