บริษัท บีอีซี เวิลด์ หรือกลุ่มช่อง 3 แจ้งผลประกอบการของ ไตรมาส 1 ปี 2565 ต่อตลาดหลักทรัพย์ พบว่า รายได้รวมของบริษัท อยู่ที่ 1,204.9 ล้านบาท ลดลง 67.3 ล้านบาท หรือ 5.1% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,308.2 ล้านบาท
โดยรายได้หลักของกลุ่ม BEC มาจากรายได้จากการขายเวลาโฆษณาในทีวีดิจิทัลช่อง 33 ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 88.3%ของรายได้รวมทั้งหมด
BEC ชี้แจงว่า รายได้จากขายเวลาโฆษณาบริษัทไตรมาสนี้อยู่ที่ 1,096 ล้านบาท ลดลง 78.5 ล้านบาท หรือ 6.7% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,174.5 ล้านบาท โดยการลดลงของรายได้มาจากเม็ดเงินโฆษณาในสื่อโทรทัศน์เกิด จากผลกระทบ การแพร่ระบาดของโควิด-19 และความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย-ยูเครน ที่ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อมีการขยับสูงขึ้นจึงทําให้กําลังซื้อของผู้บริโภคลดลง และทําให้ผู้ลงโฆษณาชะลอใช้งบโฆษณาทางโทรทัศน์ สอดคล้องกับ นีลเส็น มีเดีย รีเสิร์ช รายงานมูลค่าการใช้จ่ายของกลุ่มโทรทัศน์ (“TV”) รวม (TV + Cable/Satellite TV) ในไตรมาสที่ 1/2565 อยู่ที่ 15,000 ล้านบาท ลดลง 4.5% เมื่อเทียบกับไตรมาสที่ 1/2564 ที่ 15,702 ล้านบาท และลดลง 9.9.% จากไตรมาส 4/2564 ที่ 16,644 ล้านบาท ทั้งนี้รายได้โฆษณาคิดเป็น 88.3%ของรายได้รวม
กลุ่มรายได้ที่เพิ่มขึ้นมาจากรายได้ขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์และบริการอื่น โดยไตรมาส 1 ปี 2565 อยู่ที่ 144.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.2 ล้านบาท หรือ 8.4% จาก ไตรมาส 1/2564 แต่ลดลง 34.3% จากไตรมาสท่ี 4/2564 ซึ่งรายได้ส่วนใหญ่มาจากธุรกิจการจัดจําหน่ายละครไปต่างประเทศ (Global Content Licensing) ซึ่งมีรายได้ 54.3 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 20.4 ล้านบาท หรือเพิ่มขี้น 60.4% จากไตรมาส 1/2564 อย่างไรก็ตาม รายได้จากการขายลิขสิทธิ์ละคร “คุณหมีปาฏิหาริย์” ให้กับ Netflix ในรูปแบบ Date on Broadcasting ไป 25 ประเทศ ท่ัวเอเชียนั้น รายได้ส่วนใหญ่จะอยู่ในช่วงไตรมาส 2 ของปีนี้
ส่วนรายได้จากดิจิทัลแพลตฟอร์ม (Digital Platform) อยู่ที่ 87.4 ล้านบาท ลดลง 4.9 ล้านบาท หรือลดลง 5.3% จากไตรมาส 1/2564 โดยรายได้ทั้งสองการขายลิขสิทธิ์และดิจิทัลแพลตฟอร์มรวมกัน อยู่ท่ี 141.7 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 15.6 ล้านบาท จากไตรมาส 1/2564 โดยคิดเป็น 11.4% ของรายได้จากการดําเนินงานของกลุ่ม BEC
โดยภาพรวมบริษ้ทมีกำไรสุทธิ อยู่ที่ 173..8 ล้านบาท หรือ 25.2% จาก ไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีกำไร 138.8 ล้านบาท ซึ่งเป็นการทำกำไรต่อเนื่องมาตั้งแต่ไตรมาส 3 / 2563 ทั้งนี้มีส่วนมาจากการบริหารจัดการต้นทุนได้ดีขึ้นกว่าการลดลงของรายได้ต้นทุนขายรวมของกลุ่ม BEC ในไตรมาส 1/2565 อยู่ที่ 875.1 ล้านบาท ลดลง10.1%จากไตรมาสที่1/2564 ที่ 973.3 ล้านบาท โดยลดลงจากต้นทุนค่าตัดจ่ายละครและรายการภาพยนตร์ต่างประเทศ