ข้อมูลประมาณการรายได้โฆษณาของกลุ่มธุรกิจทีวีดิจิทัลเดือนต.ค.2562 รวบรวมโดยนีลเส็น เป็นเดือนแรกที่ไม่มีกลุ่มช่องเด็กในระบบทีวีดิจิทัล และมีทีวีดิจิทัลประกอบกิจการทั้งหมด 19 ช่อง แต่ที่มีการหารายได้จากค่าโฆษณาทั้งหมด 18 ช่อง ข้อมูลรายได้ค่าโฆษณาของเดือนนี้มีมูลค่ารวม 6,055.64 ล้านบาท ซึ่งสูงกว่าเดือนต.ค.ปี 2561 ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 5,921.63 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.26%
มูลค่าโฆษณาทั้งหมดนี้ เป็นเพียงการประมาณการเท่านั้น เป็นตัวเลขที่ยังไม่รวมส่วนลด และโปรโมชั่นของแต่ละช่อง ซึ่งจะเป็นรายได้จริงจากค่าโฆษณาของแต่ละช่อง
ข้อมูลประมาณการรายได้นี้ ได้แบ่งเป็นหมวดของช่องธุรกิจ โดยกลุ่มช่อง HD ที่ยังมีอยู่ครบทั้ง 7 ช่อง ได้แก่ช่อง 3 ช่อง 7 ช่อง One ไทยรัฐทีวี ช่อง 9 อมรินทร์ทีวีและ พีพีทีวี มีมูลค่าโฆษณารวมกันทั้งเดือนอยู่ที่ 4,030.44 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9.65% เมื่อเทียบกับเดือนต.ค.ปีที่แล้ว ที่ประมาณการรายได้รวมอยู่ที่ 3,675.67 ล้านบาท
ในขณะที่หมวดช่อง SD และข่าว ซึ่งเป็นกลุ่มช่องที่มีการคืนใบอนุญาตทีวีดิจิทัล โดยหมวดช่อง SD มีคืนใบอนุญาต 2 ช่องได้แก่ช่อง 3SD และช่อง Spring 26 เหลืออยู่ 5 ช่องในหมวดนี้ได้แก่ ช่อง Mono เวิร์คพอยท์ ช่อง 8 ช่อง GMM25 และ ทรูโฟร์ยู มีประมาณการรายได้โฆษณาอยู่ที่ 1,488.86 ล้านบาท ลดลง 10.93% จากเดือนต.ค.ปี 2561 ที่มีประมาณการรายได้อยู่ที่ 1,671.48 ล้านบาท
ส่วนหมวดช่องข่าว เหลือช่องทีวีดิจิทัลที่ประกอบการอยู่เพียง 3 ช่อง ได้แก่ ช่องเนชั่นทีวี ทีเอ็นเอ็น และนิวทีวี รายได้โฆษณาในหมวดนี้ลดลงถึง 48.27% จาก 196.18 ล้านบาทในเดือนต.ค.2561 มาอยู่ที่ 103.43 ล้านบาทเท่านั้น
ส่วนหมวดช่องเด็ก ต้องยุบไปทั้งหมดเพราะไม่เหลือผู้ประกอบการช่องเด็กอีกแล้ว โดยในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว มีรายได้จากหมวดช่องเด็กอยู่ที่ 44.47 ล้านบาท
หมวดช่องสาธารณะ ที่มีช่องที่สามารถหารายได้จากโฆษณาได้ 2 ช่องได้แก่ช่อง 5 และ NBT มีรายได้รวมกันอยู่ที่ 432.91 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.68%
อย่างไรก็ตามข้อมูลจากแวดวงเอเจนซี่ มีรายงานว่า ข้อมูลรายได้จริงจากมูลค่าโฆษณาในเดือนต.ค.ปีนี้ อยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยดีนัก เป็นอีกหนึ่งเดือนที่ยากลำบากสำหรับธุรกิจทีวีดิจิทัล ทั้งจากการแข่งขันทางธุรกิจ ปัญหาสภาพเศรษฐกิจทั้งในและต่างประเทศ ยังไงก็ขอเอาใจช่วยทุกช่อง ให้สามารถฝ่าฟันอุปสรรค สร้างรายได้ และสร้างสรรค์คอนเทนต์ดีๆให้กับผู้ชมกันต่อไป