ลดต้นทุน!  ช่อง 3 ปรับลดเวลาออนแอร์ ละครไพรม์ไทม์

ช่อง 3 รายการข่าว

วงการทีวีดิจิทัลยังคงอาการหนัก จากผลกระทบจากสภาวะเศรษฐกิจ ที่มีผลต่อแนวโน้มรายได้โฆษณาที่ลดลงต่อเนื่อง ทำให้ทั้งช่องใหญ่ช่องเล็กต้องเร่งปรับลดต้นทุนกันขนานใหญ่ งวดนี้ถึงคราวช่อง 3 ที่ถึงขนาดตั้งปรับกลยุทธ์การออนแอร์ละครไพรม์ไทม์แล้ว

แหล่งข่าวจากนักวิเคราะห์หลักทรัพย์เปิดเผยว่า ได้รับการแจ้งจากกลุ่มช่อง 3 ว่า ช่อง 3 ได้ปรับกลยุทธ์ในการลดต้นทุนการผลิตของช่องโดยภาพรวม เพื่อให้สอดรับกับสภาพเศรษฐกิจ และรายได้โฆษณาในปัจจุบัน โดยล่าสุดได้เริ่มต้นลดเวลาออกอากาศละครช่วงไพรม์ไทม์ จากที่เคยออกอากาศประมาณ 2.30 ชั่วโมงมาเป็น 2.15 ชั่วโมงต่อวัน ซึ่งได้เริ่มต้นกับละครในช่วงสุดสัปดาห์ก่อน เริ่มด้วยละครเรื่อง “หนี้รักในกรงไฟ” ที่เริ่มออนแอร์ตอนแรกวันที่ 15 มิ.ย.ที่ผ่านมา

ส่วนละครไพรม์ไทม์ที่ออกอากาศในช่วงวันจันทร์-พฤหัส ที่กำลังออกอากาศอยู่นั้น จะยังคงออกอากาศตามเวลาเดิม 2.30 ชั่วโมงต่อวันเหมือนเดิมไปก่อน จนกว่าละครชุดใหม่จะมา จึงจะเริ่มออกอากาศแบบลดเวลาเหลือวันละ 2.15 ชั่วโมงต่อวัน ส่วนรายการที่ต่อจากละครไพรม์ไทม์ ยังเป็นรายการ “ข่าว 3 มิติ” ที่ออกอากาศ 30 นาทีต่อวันเช่นเดิม แล้วต่อด้วยรายการวาไรตี้ หรือภาพยนตร์ต่างประเทศในช่วงเวลาก่อนเที่ยงคืนเป็นต้นไป

ทั้งนี้คอนเทนต์กลุ่มละคร เป็นกลุ่มรายการที่สำคัญของช่อง 3 สามารถเรียกความนิยมได้สูง แต่ก็มีต้นทุนการผลิตที่สูงด้วยเช่นกัน โดยละครแต่ละเรื่องมีต้นทุนการผลิตประมาณ 40-50 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าการลดเวลาออกอากาศจะช่วยลดต้นทุนการผลิตต่อวันให้กับช่องได้เป็นอย่างมาก เนื่องจากสถานการณ์ปัจจุบันมีโฆษณาเข้าไม่เต็มรายการ

มีรายงานข่าวว่า สถานการณ์โฆษณาลดเกิดขึ้นกับทุกช่อง รวมถึงช่อง 7 ที่ทุกช่องต่างต้องงัดกลยุทธ์ส่งเสริมการขาย ลดแลกแจกแถมเป็นช่วงๆกันอย่างเต็มที่

สถานการณ์สถานะการเงินของกลุ่มช่อง 3 นั้น ในไตรมาสแรกของปี 2562 บริษัท บีอีซี เวิลด์ บริษัทแม่ของกลุ่มช่อง 3 รายงานผลประกอบการต่อตลาดหลักทรัพย์ว่ามีรายได้รวมอยู่ที่ 2.023.8 ล้านบาท ลดลง 14.8% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีรายได้อยู่ที่ 2,375.2 ล้านบาท โดยให้เหตุผลว่า มาจากการชะลอตัวของเม็ดเงินโฆษณาในระบบ เนื่องจากมีการเลื่อนการเลือกตั้งจากเดือนม.ค.มาเป็นมี.ค.62 ทำให้ภาคธุรกิจชะลอการลงโฆษณาจนกว่าจะมีความชัดเจนทางการเมือง

ส่วนผลประกอบการปี 2561 บีอีซี เวิลด์ มีรายได้รวมทั้งปีอยู่ที่ 10,375 ล้านบาท แต่ขาดทุน 330 ล้านบาท เป็นปีแรกของบีอีซี เวิลด์ที่ขาดทุน จากปี 2560 ที่มีรายได้ 11,226 ล้านบาท และกำไร 61 ล้านบาท ซึ่งสภาพขาดทุนยังคงต่อเนื่องมาถึงไตรมาสแรกของปี 2562 ที่บีอีซี เวิลด์ขาดทุน 128 ล้านบาท

Tagged