รายการถ่ายทอดสด งานมหกรรมฉลองครบรอบ 49 ปี ช่อง 3 งานพบปะแฟนคลับของช่อง และ งานกีฬาสีประจำปี ของกลุ่มช่อง 3 งานใหญ่ของช่องที่แสดงให้เห็นศักยภาพของพลังความรักของแฟนคลับหลายพันคนต่อดาราที่ตัวเองชื่นชอบ อดทนตากแดดร้อนๆ ยอมเหนื่อยลงแรงขั้นสุด เพื่อไปแสดงพลังให้กำลังใจศิลปินในดวงใจของตัวเอง
กว่า 8 ชั่วโมงของการออกอากาศ นอกจากเรียกเรตติ้งได้แล้ว ยังสร้างกระแสในโลกออนไลน์ ติดเทรนด์ทวิตเตอร์ประจำวัน ทั้งรายการ และข่าวฮอตช็อตเด็ดของดาราดัง เช่น ณเดชน์-ญาญ่า ในซีนสุดฟินระหว่างการแสดง ก็ยังติดเทรนด์ทวิตเตอร์ ในเชิงการตลาดแล้วถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะยังเป็นการต่อยอดแสดงความสามารถของดาราในสังกัด กับพรีเซ็นเตอร์สินค้าใหม่ๆ และสร้างแบรนด์ของช่อง แจ้งเกิดดารารุ่นใหม่ๆ สร้างฐานผู้ชมให้ติดตามผลงานชิ้นต่อไปด้วย
สำหรับในปีนี้ เรตติ้งรายการแบ่งเป็น 2 ช่วง ช่วงแรกตั้งแต่เที่ยงถึง 6 โมงเย็น เกือบ 6 ชั่วโมง ทำเรตติ้งได้ดีกว่าทุกรายการที่ออกอากาศในช่วงเวลาเดียวกันทั้งวัน ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 3.055 ส่วนช่วงที่ 2 เวลา 6 โมงเย็น จนถึง 2 ทุ่ม เป็นช่วงเตะฟุตบอลดารา แม้ฝีมือไม่ได้เข้าขั้นนักฟุตบอลอาชีพ แต่ดูเอาสนุก เน้นฮา เสริมด้วยการโปรโมทละครที่กำลังออกอากาศและเรตติ้งดีสุดของช่อง 3 ในปีนี้ “ทองเอก หมอยาท่าโฉลง” ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยในช่วงนี้ได้ 4.398 สูงกว่าทุกรายการในช่วงเวลานี้เช่นกัน
รวมเรตติ้ง 2 ช่วงได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 3.385 โดยแยกเป็นกลุ่มคนดูในกรุงเทพมากที่สุด ถึง 6.417 ส่วนต่างจังหวัด ภาคกลาง มีเรตติ้งสูงสุด 3.218 ตามมาด้วยภาคใต้ 3.009 ภาคที่รับชมน้อยที่สุดคือ ภาคอีสานได้เรตติ้ง 2.654
สำหรับกลุ่มผู้รับชม แน่นอนว่ายังเป็นกลุ่มผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 4.179 ต่อ 2.552 โดยช่วงอายุที่รับชมมากที่สุดยังเป็นกลุ่มอายุ 50ปี ขึ้นไป 4.495 และที่น่าสนใจคือกลุ่มอายุ 15-19 ปี รับชมมากเป็นอันดับ 2 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 3.648 และช่วงอายุ 45-49 ปี เรตติ้ง 3.619
อย่างไรก็ตามหากเปรียบเทียบกับเรตติ้งรายการเดียวกันนี้เมื่อปีที่แล้ว ยังถือว่าได้เรตติ้งน้อยกว่า การจัดรายการครอบรอบ 48 ปี ในวันที่ 10 มี.ค. 2561 ในช่วงเวลาเดียวกันแบบนี้เป๊ะ ครั้งนั้นได้เรตติ้งเฉลี่ยรวม 2 ช่วงถึง 4.291 เนื่องจากได้ความแรงของกระแสละคร “บุพเพสันนิวาส” ที่กำลังเป็น talk of the town และออกอากาศอยู่ สร้างกระแสเรียกเรตติ้งความสนใจได้มากกว่า
สำหรับช่อง 3 การลงทุนหลายสิบล้านบาท กับการเตรียมงาน และการแสดง จัดคิวนักแสดงในสังกัด ยังไม่รวมค่าตัวนักแสดง ที่หากไม่ใช่นักแสดงสังกัดช่องแล้ว คงไม่สามารถรวมตัวกันได้ขนาดนี้ แสดงให้เห็นถึงความแตกต่างระหว่างช่องใหญ่ กับช่องใหม่ๆที่เกิดขึ้น คงจะมีเพียงช่อง 7 เท่านั้น ที่อาจจะมีศักยภาพทำได้ในระดับนี้ แต่ปัจจุบันดาราแม่เหล็กของช่อง 7 ก็ลดจำนวนลงมากแล้ว
อย่างไรก็ตาม ทุกๆช่อง ต่างก็มีแนวทางของตัวเอง ที่จะพรีเซ็นต์จุดขายช่องที่แตกต่างกัน แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือ การสร้างรายการดี คอนเทนต์โดนใจผู้ชม แล้วความนิยม รายได้ก็ตามมาแน่นอน