รายการข่าวเริ่มคึกคักมากขึ้น หลังจาก คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) มีมติให้วันที่ 24 มีนาคม 2562 เป็นวันเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) เป็นการทั่วไป โดยที่แต่ละพรรคการเมือง ต้องเปิดชื่อ “นายกฯ ในบัญชีรายชื่อ ” ภายในวันที่ 4-8 ก.พ.นี้
มีการรายงานข่าวนี้ทั้งวัน วงการข่าวมีความเคลื่อนไหวเกี่ยวกับวงการการเมืองตลอดทั้งวัน สำหรับช่วงเวลาไพรม์ไทม์ ที่ช่องใหญ่ส่วนใหญ่เป็นช่วงเวลาภาคบันเทิงนั้น แต่รายการข่าวก็ยังสามารถมีที่ยืน แทรกเข้ามาชิงเรตติ้งได้ ทำให้ล่าสุด กลุ่มช่อง 3 จัดให้ช่อง 13 Family มาจัดรายการข่าวในช่วงไพรม์ไทม์ เข้าสู้กับช่องข่าวเต็มที่ โดยจะเริ่มเดือนก.พ.นี้
เรตติ้งรายการข่าวช่วงไพรม์ไทม์ของวันที่ 23 ม.ค. แชมป์ช่วงนี้ เป็นของช่อง 7 ที่จัดเวลาข่าวช่วงหลัง 2 ทุ่มไว้ถึง 20 นาที ก่อนเข้าละครไพรม์ไทม์ เป็นช่วงเวลาทองที่ตรึงคนดูอยู่กับช่องไว้ เพื่อรอดูละคร เรตติ้งรายการข่าวในช่วงนี้ ที่รวมถึงรายงานพยากรณ์อากาศ จึงได้สูงถึง 5.545 เรตติ้งสูงกว่าละคร “ในคืนหนาวแสงดาวยังอุ่น” ตอนจบ ได้ไป 4.790
ในขณะที่รายการข่าว “ไทยรัฐนิวส์โชว์” รายการข่าวที่ยาวกว่า 2 ชั่วโมง ทำเรตติ้งในช่วงเวลานี้ไว้ 1.940 ทำเรตติ้งได้สูงกว่าละคร “บ่วงนฤมิต” ช่อง 3 ที่ได้เรตติ้งเฉลี่ย 1.614 และ “นางสาวไม่จำกัดนามสกุล”ช่องวัน 1.520
ส่วนรายการคู่แข่งไทยรัฐ “ทุบโต๊ะข่าว” ได้เรตติ้งเฉลี่ยอยู่ที่ 1.355
สำหรับกลุ่มช่องข่าว ที่จัดรายการข่าวในช่วงไพรม์ไทม์ เนชั่นทีวีนำในกลุ่มนี้ด้วยรายการ “ข่าวข้น คนเนชั่น” เรตติ้ง 0.490 สูสีกับข่าวค่ำช่อง 9 เรตติ้ง 0.463
ช่องวอยซ์ทีวี ที่ช่วงนี้เรตติ้งเฉลี่ยช่องดีวันดีคืน ยังคงเน้นหนักในการรายงานและวิพากษ์ข่าวการเมือง มี 2 รายการออกอากาศในช่วงเวลานี้ เรตติ้งใกล้เคียงกัน “สุมหัวคิด” ได้เรตติ้งเฉลี่ย 0.276 และ “เดอะ เดลี่โดส โลกการเมือง” เรตติ้ง 0.275
สถานการณ์แต่ละช่องทีวีดิจิทัล ที่ให้น้ำหนักการรายงานข่าว คาดว่าจะเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ เมื่อใกล้ถึงวันเลือกตั้ง เป็นประโยชน์ต่อผู้ชม ที่มีทางเลือกที่หลากหลายในการเสพข่าวสารมากขึ้น
