เมื่อละครของพ่อ และลูก มีลายเซ็นต์ต้นตำรับเดียวกัน จะต้องโคจรมาออนแอร์แข่งกัน ชิงผู้ชมกลุ่มเดียวกัน เมื่อละครใหม่ “พ่อตาปืนโต ภาค 2 ตอน หลานข้าใครอย่าแตะ ของฉลอง ภักดีวิจิตร จากช่อง 7 จะเจอกับ “อังกอร์” ค่ายอาหลองจูเนียร์ ของ กู๊ด-เฉิดบุญ ภักดีวิจิตร ลูกชายฉลอง จากช่อง 3 ในช่วงละครเย็นใน 2 สัปดาห์สุดท้ายของปลายปีนี้
ฉลอง ภักดีวิจิตร เจ้าพ่อละครบู๊ สไตล์ระเบิดภูเขา เผากระท่อม ปักหลักและเติบโตอยู่ที่ช่อง 7 แต่เปิดทางให้ลูกชาย ที่แตกสาขาไปโตกันคนละช่อง ละครของทั้ง 2 คนไม่น่าจะมาชนกัน เมื่อละคร “พ่อตาปืนโต 2 “ วางไว้เป็นละครเย็น ของช่อง 7 ส่วน “อังกอร์” ออกอากาศไปแล้วทางช่อง 3 ที่ทำเรตติ้งเฉลี่ยสูงสุดอันดับ 3 ของช่อง 3 ในปีนี้
ด้วยกลยุทธ์ใหม่ของช่อง 3 ที่นำละครที่ประสบความสำเร็จในปีนี้มารีรันในช่วงเดือนสุดท้ายของปี ก่อนเข้าเทศกาลปีใหม่ งบโฆษณาลงน้อย จึงจัดละครรีรันลง ส่งท้ายปลายปีให้ผู้ชมแทน แถมยังได้ลดต้นทุนด้วย โดยจัดละคร “ลิขิตรัก The Crown Princess” ลงรีรันช่วงไพรม์ไทม์ เริ่ม 18 ธ.ค. และ “อังกอร์”ลงช่วงเย็น เริ่มตั้งแต่ 20 ธ.ค.เป็นต้นไป
ในขณะที่ช่อง 7 จัดละครใหม่ “พ่อตาปืนโต ภาค 2 ตอน หลานข้าใครอย่าแตะ” วางไว้ออกอากาศต่อจาก “ไฮโซสะออน” ที่ทำเรตติ้งมาแรงสุดของละครเย็น เริ่ม 17 ธ.ค.นี้
พ่อตาปีนโต 2 เป็นภาคต่อ ของ พ่อตาปืนโตภาคแรก ออกอากาศในปี 2556 ก่อนช่วงทีวีดิจิทัล ที่สร้างปรากฏการณ์เรตติ้งตอนจบสูงถึง 21 มาแล้ว เป็นละครแนวแอคชั่น คอมเมดี้ ที่แน่นอนว่า ใส่ซิกเนเจอร์ของฉลองในแนวละครบู๊อย่างเต็มที่
ส่วนอังกอร์ เป็นละครม้ามืด นอกสายตา ของช่อง 3 มาฟันเรตติ้งให้ช่องได้อย่างน่าแปลกใจ ด้วยแนวละครบู๊ แฟนตาซี มีครบหมด ตั้งแต่ระเบิดภูเขา เผากระท่อม แถมด้วย การ “ปิ้งไก่” ในตำนาน จนทำเรตติ้งเฉลี่ยได้ 5.311 และตอนจบ 7.305 เป็นรองเพียงละคร “บุพเพสันนิวาส”เท่านั้น
ตลาดผู้ชมละครเย็น ส่วนใหญ่เป็นฐานผู้ชมกลุ่มแมส ในต่างจังหวัด เป็นส่วนใหญ่ ละครบู๊ ละครตลก จึงเป็นแนวละครที่ประสบความสำเร็จได้เสมอ แต่เมื่อละครจากต้นตำรับเดียวกันต้องมาเจอกัน ละครใหม่ อาจจะได้เปรียบ เพราะผู้ชมไม่เคยดูมาก่อน แต่ละครรีรันก็เป็นการันตีความสนุกกับผู้ชมกลุ่มใหม่ เรื่องไหนจะมาวิน รอดูกัน