เรตติ้งช่องวัน ในรอบ 9 เดือนของปี 2561 มีเฉลี่ยสูงขึ้นจาก 9 เดือนแรกของปี 2560 จาก 0.500 มาอยู่ที่ 0.520 และยังอยู่ในอันดับ 6 เช่นเดิม โดยมี “ละคร” ที่เป็นรายการจุดเด่นของช่องวัน ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยช่องเพิ่มขึ้นมา ซึ่งในปีนี้มีละคร “เมีย 2018” เป็นละครที่ทำเรตติ้งสูงสุดของช่องด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 3.157
เรตติ้ง 5 ชั่วโมงไพรม์ไทม์ของวัน เฉลี่ยแต่ละชั่วโมงของปี 2561เทียบกับปี 2560 เรตติ้งรายการช่วงเย็นลดลง ตั้งแต่ 18.00-20.00น. แต่เพิ่มขึ้นในช่วงไพรม์ไทม์ ตั้งแต่ 20.00-23.00น.
แต่เมื่อแยกเรตติ้งเฉลี่ยของวันทำงานและเสาร์-อาทิตย์จะเห็นได้ชัดเจนว่า ช่วงเย็น คือช่วงที่เรตติ้งลดลงมาก ในช่วงเวลา 19.00-20.00น.ของทุกวัน โดยในปี 2560 ช่องวันมีการขยับรายการวาไรตี้ประกวดร้องเพลง “ศึกวันดวลเพลง” ชุดที่ออกอากาศทุกวันทำงาน ซึ่งมีฐานผู้ชมแมส ได้รับความนิยมสูง ปรับผังจากช่วงเวลาออกอากาศ 19.00 น.มาเป็นเวลา 18.20น. ต่อเนื่องมาถึงปีนี้ เพื่อเปิดทางให้ละครซิทคอมของช่องลงในช่วงนี้แทน ผลของการปรับผังเวลา ทำให้เรตติ้งรายการหล่นฮวบลงมาทันที จากที่เคยมีเรตติ้งเฉลี่ยในช่วงนี้ที่เรตติ้งประมาณ 3 กว่า หล่นลงมา 1 กว่า
อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับเรตติ้งโดยรวมของปี 2561 ของวันทำงานในช่วงเย็นมีขยับขึ้นเล็กน้อยในช่วงเวลา 18.00น. เมื่อเทียบกับปี 2560 ในช่วง 19.00น.ยังลดลงอย่างเห็นได้ชัด ซึ่งช่องวันได้ปรับเปลี่ยนผังเอาซิทคอมออก และใส่ละครเย็นลงผังแทนตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา เริ่มต้นด้วยละคร “สุภาพบุรุษมงกุฎเพชร”
ส่วนช่วงไพรม์ไทม์ของวันทำงาน เรตติ้งเฉลี่ยแต่ละชั่วโมงเพิ่มสูงขึ้นจากชุดละครไพรม์ไทม์ที่แข็งแกร่งเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ
ในช่วงวันเสาร์-อาทิตย์ เรตติ้งในช่วง 21.00-23.00น. ดีขึ้นจากการจัดชุดซีรี่ส์ และรายการวาไรตี้ลงผัง แต่จุดอ่อนก็ยังเป็นช่วงเย็น ช่วงเวลาแห่งการแข่งกันด้วยรายการวาไรตี้ โดยมีคู่แข่งหลักคือช่อง 7 และเวิร์คพอยท์
กลยุทธ์ในช่วงปลายปี 2561ของช่องวัน ที่เห็นได้ชัด คือ ความพยายามจัดละคร ที่เป็นคอนเทนต์แนวถนัดและแข็งแรงของช่องลงผังในทุกช่วงสำคัญ ทั้งช่วงเย็นและ ไพรม์ไทม์ โดยช่วงเย็นเริ่มจัดละครเย็นลงแทนซิทคอม และช่วงไพรม์ไทม์ขยายจากสัปดาห์ละ 2 เรื่อง มาเป็น 3 เรื่องลงในวันศุกร์ และเสาร์ด้วย ประเดิมด้วย “เลือดข้นคนจาง” ที่สร้างกระแสอย่างมากเป็นเรื่องแรก แต่ได้เรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่ 1.345 เท่านั้น
การวางกลยุทธ์ ใส่จุดแข็งด้วยคอนเทนต์ละครลงสู้ จะสร้างความนิยมและเรตติ้งเฉลี่ยของช่องเพิ่มสูงขึ้นได้หรือไม่ ต้องรอลุ้นกันต่อไป
