สำหรับช่องที่โดดเด่นด้านละครในวงการทีวีดิจิทัล มีช่อง 7 และช่อง 3 เป็น 2 ช่องที่เป็นเจ้าตลาดละครไทย ตั้งแต่ยุคทีวีแอนะล็อค โดยมีค่ายเอ็กแซ็กท์ ของจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่เป็นคู่แข่งมาอย่างห่างๆในช่อง 5
พอมาในยุคทีวีดิจิทัล เอ็กแซ็กท์ ยกระดับมาเป็นช่องวัน ระดับการแข่งขันในงานละครเป็นไปอย่างดุเดือดมากขึ้น เพราะมีอีกหลายช่องที่พยายามโดดเข้ามาแข่งขันด้วย ทั้งจีเอ็มเอ็ม25, ทรูโฟร์ยู และเวิร์คพอยท์ แต่ช่องที่โดดเด่นที่สุดในฐานะช่องน้องใหม่ก็ยังเป็นช่องวัน
ช่อง 7 เป็นเจ้าตลาดในตลาดต่างจังหวัด ส่วนช่อง 3 เป็นแชมป์ในตลาดกรุงเทพและหัวเมือง ละครของทั้ง 2 ช่องเจาะกลุ่มจับฐานผู้ชมของตัวเองได้อย่างเหนียวแน่น ในขณะที่ช่องวันในฐานะช่องใหม่ ก็พยายามเข้ามาสู้ในตลาดกรุงเทพและหัวเมือง ที่เป็นตลาดที่เรียกรายได้ จากเม็ดเงินโฆษณาได้มากที่สุด ซึ่งเป็นการเข้ามาช่วงชิงในพื้นที่ของช่อง 3 โดยตรง
จากความพยายามมาหลายปีตั้งแต่มีทีวีดิจิทัล ช่องวันมาถึงจุดพีค จากความสำเร็จของละคร “เมีย 2018” ที่ได้เรตติ้งเฉลี่ยสูงที่สุด จากเรตติ้งเฉลี่ยในตอนล่าสุดวันที่ 21 ส.ค.61 ได้ 5.873 จากการวัดเรตติ้งกลุ่มผู้ชม 4+ ขึ้นไป เป็นเรตติ้งละครที่สูงที่สุดของช่องวันในยุคทีวีดิจิทัล โดยก่อนหน้านี้ละครที่เรตติ้งสูงสุดของช่องวัน คือละครเพลงลูกทุ่ง “ดาวจรัสฟ้า” ที่ออกอากาศมาเมื่อต้นปี 2561 เรตติ้งสูงสุดในตอนจบที่ 5.153 โดยมีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 3.055 และละครพีเรียด “พิษสวาท” ออกอากาศ ปี 2559 เรตติ้งตอนจบ 5.027 โดยมีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่ 3.069
ส่วนละครที่มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องสูงสุด คือ “ราชินีหมอลำ” เรตติ้งเฉลี่ย 3.298 แต่มีเรตติ้งตอนสูงสุดตอนจบที่ 4.583
แต่หากดูเรตติ้งในกลุ่ม 15+ ที่เป็นกลุ่มที่เจาะลงเป้าหมาย “เมีย 2018” โดยตรง จะได้เรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องวันที่ 21 ส.ค.อยู่ที่ 6.182 และเป็นพื้นที่กรุงเทพ 7.221 ต่างจังหวัด 6.002
ความแรงของละคร “เมีย 2018” นอกจากชนะละครทั้งช่อง 7 และช่อง 3 แล้ว ยังช่วยหนุนเรตติ้งชุดละครทั้งหมดของช่องวัน ที่ออกอากาศก่อนหน้า ทั้งละครเย็น “สุภาพบุรุษสุดซอย” และ “วิมานจอเงิน” ของช่องวันเอง โดยเรตติ้งเฉลี่ยทั้ง 2 เรื่องแซงหน้า “ดวงใจในไฟหนาว” ช่อง 3
ในขณะที่ช่อง 3 ชุดละครช่วงไพรมไทม์ในล็อตนี้ อยู่ในช่วงที่เรตติ้งน้อยที่สุดช่วงหนึ่งของช่อง โดยเฉพาะชุดละครช่วงวันทำงาน จันทร์-พฤหัส จากละคร “ดวงใจในไฟหนาว” และ “นางบาป”
“ดวงใจในไฟหนาว” เปิดตัวตอนแรกวันที่ 13 ส.ค. พร้อมๆกับ “วิมานจอเงิน”ช่องวัน แต่เรตติ้งได้สูงกว่า 2.389 กับ 1.818 แต่ “วิมานจอเงิน” ออกอากาศ 4 วันรวด ในวันที่เจอกับ “นางบาป”วันที่ 16 ส.ค.ที่ผ่านมา เรตติ้งอยู่ที่ 1.712 ยังตามหลัง “นางบาป” ที่ได้ 2.368 แต่พอมาเจอกับ “ดวงใจในไฟหนาว” อีกครั้งในรอบวันจันทร์ อังคาร ด้วยแรงส่งจาก “เมีย 2018” ทำให้ “วิมานจอเงิน”เรตติ้งแซงหน้าทั้ง 2 วัน
“ดวงใจในไฟหนาว” ยิ่งออกอากาศเรตติ้งยิ่งลด จากละครที่ดูเหมือนว่าเป็นแนวดราม่า แต่เปิดตัวมากลายเป็นคอมเมดี้ ตอนล่าสุด เรตติ้งเฉลี่ยต่ำกว่า 2 ไปแล้ว โดยอยู่ที่ 1.935 แม้กระทั่งเรตติ้งในพื้นที่กรุงเทพ ก็แพ้ทั้งละครช่อง 7 และช่องวันทั้ง 2 เรื่อง
ยิ่งไปกว่านั้น “ดวงใจในไฟหนาว” ละครไพรม์ไทม์ที่ควรจะได้เรตติ้งสูงกว่าละครช่วงอื่นๆของช่อง 3 เอง กลับแพ้ทั้งละครเย็น และละครรีรันช่วงบ่าย ชนะเพียงละครรีรันช่วงเช้าของช่อง 3 ในช่วง ละครดังข้ามเวลาเท่านั้น
ในปีนี้ละครไพรม์ไทม์ของช่อง 3 ที่ได้เรตติ้งต่ำสุดคือ “เสน่ห์นางงิ้ว” ออกอากาศในช่วงต้นปี ที่มีเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่ 2.008 และมีเรตติ้งตอนที่ต่ำที่สุดอยู่ที่ 1.561 เป็นเรื่องที่ช่อง 3 รีบตัดให้จบโดยเร็วก่อนที่เรตติ้งจะลดลงไปอีก
การสู้ของชุดละครช่อง 3 และช่องวัน ไม่ได้มีเพียงแค่ละครเย็นและไพรม์ไทม์เท่านั้น ยังมีแข่งขันกันในชุดละครรีรัน ช่วงเช้า และช่วงบ่าย ซึ่งยังเป็นช่วงที่ช่อง 3 แข็งแกร่งมากกว่า โดยเฉพาะในช่วงบ่าย ที่ช่อง 3 นำละครดังของปีที่แล้วมาออกอากาศ เรตติ้งสูงกว่าทั้งละครรีรันของช่อง 7 และช่องวัน
ช่วงละครดังข้ามเวลา “จำเลยรัก” ที่มี อั้ม อธิชาติ และแอฟ ทักษอร แสดงนำ เรตติ้งนำในช่วงดังกล่าวเช่นกัน สูงกว่าละครรีรัน “สุดสายป่าน” ช่องวันไปกว่าเท่าตัว 1.661 กับ 0.645
อย่างไรก็ตาม อีก 2 ตอน “เมีย 2018 “ ก็จะจบลงแล้ว ช่องวันเตรียมส่งละครเรื่องที่มีพล็อตแรงไม่แพ้กัน “บาปรัก” แถมยังได้ “กบ สุวนันท์” มาแสดง ต้องลุ้นกันต่อว่า จะสร้างความฮือฮาต่อเนื่องให้กับช่องวันต่อไปหรือไม่ และช่อง 3 จะงัดกลยุทธ์ไหนมาสู้