บริษัท เวิร์คพอยท์ แจ้งผลประกอบการของ ไตรมาส 1/2565 ต่อตลาดหลักทรัพย์ พบว่า รายได้รวมของบริษัท อยู่ที่ 495.39 ล้านบาท ลดลง 61.4 ล้านบาท หรือ 11.03% เมื่อเทียบกับไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 556.81 ล้านบาท มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 32.33 ล้านบาท ลดลง 85.51 ล้านบาท หรือ 72.56% จาก ไตรมาส 1 / 2564
รายได้หลักของเวิร์คพอยท์ ยังคงเป็นกลุ่มรายได้จากรายการโทรทัศน์ไตรมาส 1 /2565 มีรายได้ส่วนนี้ 478.11 ล้านบาท ซึ่งเป็น 96.51 % ของรายได้รวม ลดลง 54.9 ล้านบาทหรือ 10.3% จากรายได้ไตรมาส1/ 2564 มีรายได้อยู่ที่ 533.01 ล้านบาท ซึ่งเวิร์คพอยท์ชี้แจงว่ารายได้ส่วนนี้ลดลงเกิดจาดการระบาดของไวรัสโควิด-19 และ สงครามระหว่าง รัสเซีย ยูเครน ซึ่งมีผลกระทบต่อเม็ดเงินโฆษณา
ในขณะที่กลุ่มรายได้จากรายได้จากคอนเสิร์ตและละครเวที มีรายได้จากการให้การสนับสนุนของสปอนเซอร์โรงละคร โดยรายได้กลุ่มนี้เพิ่มขึ้น 1.56 ล้านบาท หรือ 55.12% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว ส่วนการรับจ้างจัดงาน ลดลง1.13% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว อย่างไรก็ตามทั้งสองกลุ่มนี้มีสัดส่วนรายได้เพียงแค่ 2.47%ของรายได้รวม
ส่วนรายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่นรายได้ส่วนนี้มีสัดส่วนอยู่ที่ 0.96 % ของรายได้รวม โดยมีรายได้อยู่ที่ 4.78 ล้านบาท ลดลง 8.11 ล้านบาท หรือ 62.91% จากไตรมาส 1 ปี 2564 ที่มีรายได้อยู่ที่ 12.89 ล้านบาท (รายได้จากการขายสินค้าและบริการอื่นประกอบด้วย รายได้จากการจัดจําหน่ายผลิตภัณฑ์ภายใต้ตราสินค้าของบริษัทฯ และสินค้าจากพันธมิตร รวมถึงรายได้จากการให้บริการเช่าพื้นที่โรงละครและรายได้จากการบริการจัดหานักแสดง ) ซึ่งเวิร์คพอยท์อธิบายว่าการลดลง ดังกล่าวมาจากการลดลง ของรายได้จากการจากการขายสินค้าเป็นหลัก เนื่องจากบริษัทได้ยุติรายการ 1346 Hello Shops
เวิร์คพอยท์ชี้แจงว่า ไตรมาสนี้บริษัทมีต้นทุนการผลิต 319.10 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.99ล้านบาท หรือ 4% เทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้วจาก การเพิ่มขึ้น ต้นทุนเพื่อจากรายการโทรทัศน์ใหม่เช่น แฟนกัน 1DAY และ ศึกมายากล