บริษัท บริษัท โมโน บรอดคาซท์ จำกัด หรือ ช่อง MONO เป็นผู้รับใบอนุญาตช่องทีวีดิจิทัล ได้แจ้งผลประกอบการต่อ กรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ พบว่าในปี 2563 บริษัทมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,181.09 ล้านบาท ลดลงจากปี 2562 จำนวน 32.68% ขาดทุน 599.87 ล้านบาท ขาดทุนเพิ่มขึ้น 130.88% โดยปี 2562 มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,754.45 ล้านบาท และขาดทุนอยู่ที่ 259.81 ล้านบาท โดยเป็นการขาดทุนมากที่สุดตั้งแต่เริ่มธุรกิจทีวีดิจิทัลในปี 2557
ยอดรวมขาดทุนสะสมถึงปี 2563 อยู่ที่ 1,695.71 ล้านบาท อัตราการขาดทุนของ โมโน มีแนวโน้มไม่แน่นอน บางปีขาดทุนเพิ่มขึ้น บางปีลดลง บางปีมีกำไร โดยมีกำไรในปี 2560-61 ปี 2559ขาดทุน อยู่ที่ 275.68 ล้านบาท ปี 2560 กำไรอยู่ที่ 90.84 ล้านบาท ปี 2561กำไรอยู่ที่ 32.64 ล้านบาท ปี 2562 ขาดทุน 259.81ล้านบาท
คอนเทนต์เด่นของช่อง MONO แตกต่างไปจากสถานีโทรทัศน์ช่องอื่น ๆ ด้วยการจัดภาพยนตร์และซีรีส์ต่างประเทศลงผัง ซึ่งลิขสิทธิ์ภาพยนตร์และซีรีส์ชื่อดังมีราคาแพง อีกทั้งยังมีข้อจำกัดในการนำคอนเทนต์มาออนแอร์ได้จำกัด เป็นหนึ่งในต้นทุนมหาศาลของช่องมาโดยตลอด ทำให้ต้องปรับกลยุทธ์โดยการหันมาทุ่มทุนกับการผลิตละครและซีรีส์ไทย ด้วยการดึงทีมงานจากช่องอื่นๆมาร่วมด้วย การผลิตคอนเทนต์ของตัวเอง มีข้อดีที่สามารถจัดคอนเทนต์รีรันได้ไม่จำกัด โดยไม่มีต้นทุนเพิ่มเติม แต่ก็ต้องลงทุนสูงในการผลิตคอนเทนต์คุณภาพ เพื่อเรียกความนิยมด้วยเช่นกัน
ช่อง Mono มีเรตติ้งเฉลี่ยช่องอยู่ในอันดับ 3 ของกลุ่มช่องทีวีดิจิทัลทั้งหมด เป็นการอยู่ในอันดับ 3 มาตั้งแต่ปี 2561
ผลการปรับเปลี่ยนกลยุทธ์ใหม่ครั้งนี้ จะช่วยลดต้นทุน สร้างความนิยม และเปลี่ยนจากขาดทุนเป็นกำไรให้กับช่องอีกครั้งหรือไม่ รอติดตาม
