เดือนม.ค.2564 คอนเทนต์ข่าวประเภทข่าว “สีสัน” ได้รับความสนใจจากผู้ชมทีวีดิจิทัลสูง ทั้งข่าวในกระแสเรื่อง “ลุงพล” ไชย์พล วิภา แห่งบ้านกกกอก มุกดาหาร เรื่องคลัสเตอร์ “ดีเจมะตูม”กรณีการแพร่กระจายของไวรัสโควิด-19 กรณี “กาละแมร์” เรื่องการโฆษณาอาหารเสริม และข่าวอาญชากรรมประจำวัน ส่งผลให้เรตติ้งของช่องเน้นข่าว ทั้งช่องอมรินทร์ทีวีและไทยรัฐทีวีโดดเด่นมากเป็นพิเศษ
ทั้งสองช่องมีรายการข่าวเด่นในช่วงเวลาไพรม์ไทม์ของวัน เริ่มตั้งแต่ 19.00น.ของวันจันทร์-ศุกร์ และไพรม์ไทม์หลัง 2 ทุ่มทุกวัน รายการ “ทุบโต๊ะข่าว” และ “ไทยรัฐนิวส์โชว์” สไตล์ข่าว ขยี้ ขยายประเด็นคล้ายคลึงกัน แต่ละช่องมีฐานผู้ชมแฟนประจำของตัวเอง แต่ในช่วงมีข่าวฮอต กลายเป็น 2 ช่องที่มักจะได้เรตติ้งดีเสมอ
นอกจากคอนเทนต์ข่าวแล้ว ทั้งสองช่องยังมีรายการถ่ายทอดสดสลากกินแบ่งรัฐบาลเหมือนๆกัน เป็นอีกรายการที่ได้รับความนิยมสูง
ส่วนกลุ่มรายการบันเทิงเด่นๆของช่อง เช่นอมรินทร์ทีวีมีละครซึ่งเดือนม.ค.ที่ผ่านมานี้ ละคร “บังเกิดเกล้า” ที่จบไปแล้ว เป็นรายการที่ได้รับความนิยมสูงมีเรตติ้งตอนจบ 1.999 และเรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่อง 1.142 ส่วนช่องไทยรัฐทีวีมีรายการวาไรตี้เย็นวันเสาร์อาทิตย์ “ร้องได้ให้ล้าน” และ “เกมต่อชีวิต” เป็นคอนเทนต์บันเทิงเด่นของช่อง
ในภาพรวมเรตติ้งเฉลี่ยของทั้งสองช่องในเดือนม.ค. ประเภทผู้ชมอายุ 4 ปีขึ้นไปทั่วประเทศ ช่องอมรินทร์ทีวีเรตติ้งเฉลี่ยสูงกว่าไทยรัฐทีวี เมื่อเปรียบเทียบฐานผู้ชมของทั้งสองช่องในเดือนม.ค.นี้ จากข้อมูลพบว่า ฐานผู้ชมแยกพื้นที่ ช่องไทยรัฐทีวีเด่นกว่าในพื้นที่กรุงเทพ เรตติ้งเฉลี่ย 0.825 ส่วนช่องอมรินทร์ทีวีได้ 0.747 แต่ในพื้นที่ภูมิภาคต่างจังหวัดทั้งหมดช่องอมรินทร์เด่นกว่า ทั้งภาคกลาง ภาคเหนือ และภาคใต้
แยกตามอายุของผู้ชมสูสีทุกกลุ่ม แต่ส่วนใหญ่ช่องอมรินทร์ทีวีเรตติ้งดีกว่าในทุกกลุ่มอายุ ยกเว้นอายุ 4-5 ปี อายุ 20-24 ปี และอายุ 30-34 ปี
นอกจากนี้ทั้งสองช่องยังมีฐานผู้ชมกลุ่มผู้หญิงมากกว่าผู้ชาย แม้ว่าจะเป็นรายการข่าว แต่ข่าวจริงที่มีดราม่า เรียลยิ่งกว่าละคร บางข่าวต้องอาศัยหลักฐาน พิสูจน์ความจริง ยังหาข้อสรุปไม่ได้ กลายเป็นประเด็นฮอตที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม จึงไม่น่าแปลกใจที่บางช่วงรายการข่าวได้รับความนิยมสูงกว่ากลุ่มรายการบันเทิง พล็อตละครที่อิงจากเรื่องราวในสังคมนั่นเอง