หลังจากมีข่าวใหญ่ของกลุ่มช่อง 3 ไปเมื่อไม่นานนี้ กับการทยอยประกาศลาออกของผู้บริหารระดับสูงของกลุ่มช่อง 3 ตั้งแต่ “ประชุม มาลีนนท์” ออกจากตำแหน่ง G-CEO เมื่อวันที่ 26 มี.ค.ที่ผ่านมาด้วยเหตุผลเรื่องสุขภาพ และ “อริยะ พนมยงค์” จากตำแหน่ง President ซึ่งจะมีผลในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ นอกจากนี้ยังมีรายงานว่าบรรดาทีมผู้บริหารทีม “อริยะ” ก็ทยอยลาออกกันต่อเนื่อง ด้วยเหตุผลส่วนตัว หลังจากทีมบริหารลาออกไปแล้วนั้น เมื่อวันที่ 13 พ.ค.63 บริษัทบีอีซี เวิลด์ หรือกลุ่มช่อง 3 ได้รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก ของปี 2563 พบว่าขาดทุนถึง 275.2 ล้านบาท โดยเป็นการขาดทุนเพิ่มขึ้น 114.9% เมื่อเทียบกับไตรมาสเดียวกันในปี 2562 ที่ขาดทุนอยู่ที่ 128 ล้านบาท
บีอีซี เวิลด์ได้รายงานว่า มีรายได้รวมในไตรมาสแรกอยู่ที่ 1,636.5 ล้านบาท ลดลง 19.1% เมื่อเทียบกับไตรมาสแรกปีที่แล้วที่มีรายได้รวมที่ 2,023.8 ล้านบาท โดยรายได้ที่ลดลงมากที่สุด มาจากรายได้จากค่าโฆษณาลดลงถึง 18.5% หรือ 318.5 ล้านบาท จากรายได้ในไตรมาสแรกปีที่แล้วที่มีอยู่ที่ 1,718.5 ล้านบาท ลดลงเหลือเพียง 1,400 ล้านบาท ซึ่งให้สาเหตุว่า รายได้ส่วนนี้ลดลงจากนาทีโฆษณาที่ลดลงจากการแข่งขันสูง และยังได้รับผลกระทบจากวิกฤตโควิด-19 ด้วย
ส่วนรายได้อื่นๆทั้งรายได้จากการจัดคอนเสิร์ต การขายสินค้าลดลงทั้งหมดในสัดส่วย 92.6% และ 35.5% ตามลำดับ มีเพียงรายได้จากการขายลิขสิทธิ์คอนเทนต์และบริการอื่นเพิ่มขึ้นเล็กน้อย 6.9% หรือเพิ่มเป็นวงเงินเพียง 14.2 ล้านบาทเท่านั้น
ทั้งนี้บีอีซี เวิลด์ได้รายงานว่า บริษัทได้พยายามลดค่าใช้จ่าย ด้วยการลดต้นทุนขาย และต้นทุนการให้บริการ ได้ลดลง 10.2% จาก 1,771.1 ล้านบาทในไตรมาสแรกปีที่แล้ว มาอยู่ที่ 1,589.7 ล้านบาท โดยลดได้จากการปรับผังรายการใหม่ การออนแอร์ละครรีรัน และการลดขนาดองค์กรจาการยกเลิกทีวีแอนะล็อก
ทั้งหมดนี้ทำให้ภาพรวมในไตรมาส 1 ของปีนี้ กลุ่มช่อง 3 ขาดทุนอยู่ที่ 275.2 ล้านบาท แต่ก็ยังไม่ได้เป็นไตรมาสที่ขาดทุนสูงสุด ซึ่งเคยเกิดขึ้นในไตรมาส 4 ของปี 2560 ที่เคยขาดทุนสูงสุดอยู่ที่ 335 ล้านบาท
สำหรับตำแหน่งผู้บริหารที่ทยอยลาออกกันไปนั้น ในขณะนี้ยังไม่มีการปรับตำแหน่งหรือโครงสร้างใหม่ โดยที่กลุ่มพี่น้องหญิง “มาลีนนท์” 3 คน ทั้งรัตนา อัมพร มาลีนนท์ และรัชนี นิพัทธกุศล (มาลีนนท์) เป็นผู้รับผิดชอบงานบริหารทั้งหมด ซึ่งทางช่อง 3 ได้ชี้แจงว่า คณะกรรมการสรรหาและกำหนดค่าตอบแทน จะมีการเรียกประชุมเพื่อสรรหาผู้บริหารคนใหม่ต่อไป