ช่วงเวลา 6 โมงเย็น เป็นอีกหนึ่งช่วงเวลาสำคัญที่มียอดผู้ชมทีวีสูงช่วงหนึ่ง ในช่วงก่อนเข้าช่วงเวลา Early Prime และ Prime Time ซึ่งหลายๆช่องจะเริ่มจัดรายการใหม่ๆลงผัง หวังเรียกทั้งเรตติ้งและรายได้ เป็นการปูทางสู่ช่วงเวลาไพรม์ไทม์
ส่วนใหญ่ในช่วงปี 2562 ของรายการช่วงเวลา 18.00น. เป็นช่วงเวลาที่รายการประกวดร้องเพลง “ดวลเพลงชิงทุน” ช่อง One เป็นแชมป์ของช่วงเวลามานานต่อเนื่อง โดยที่รายการวาไรตี้ของช่อง 7 ตามมาเป็นอันดับ 2 ในขณะที่ “ไมค์หมดหนี้” จากเวิร์คพอยท์ ที่เคยเป็นแชมป์ของช่วงเวลานี้มานานหลายปี ตกมาอยู่ที่อันดับ 3 ส่วนช่อง 3 ในช่วงต้นปีจัดซีรีส์อินเดีย ที่กระแสซาลงไป ตกอยู่เป็นอันดับ 4 แถมบางครั้งเจอภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์จากช่อง Mono ช่อง 3 ก็ตกลงไปเป็นอันดับ 5 ของช่วงเวลานี้ด้วย
รายการของช่อง 3 ในช่วงเวลานี้ตกเป็นรองทุกคน เนื่องจากช่อง 3 จัดซีรีส์อินเดียลงจอมาอย่างยาวนาน จนเมื่อซีรีส์อินเดียลดความนิยมลง ในช่วงเดือนเม.ย.ช่อง 3 เริ่มทดลองขยับซีรีส์อินเดียออกชั่วคราวด้วยการใส่ละคร “แรงเงา 1” มาออนแอร์ยาว 2 ชั่วโมง ซึ่งได้ผลเรตติ้งดีขึ้น และตั้งแต่ปลายเดือนส.ค.62 ก็ถอดซีรีส์อินเดียยาว เติมด้วยละครรีรัน “คลื่นชีวิต” ทำเรตติ้งได้ดีกว่าซีรีส์อินเดีย และเริ่มสร้างฐานเรตติ้งใหม่ในช่วงเวลาดังกล่าว แต่ก็ยังอยู่ในลำดับที่ 4-5 เพราะกลุ่มรายการวาไรตี้ แข่งกันอย่างดุเดือด
จนมาช่วงเดือนธันวาคม ที่ช่อง 3 ขยายเวลาละครรีรันเย็นมาเต็ม 2 ชั่วโมง จากเรื่อง “เสน่หาสัญญาแค้น” ตามต่อมาด้วยเรื่อง “คนละขอบฟ้า” ที่ออกอากาศยาวข้ามปีจนถึงช่วงหลังปีใหม่ เปิดศักราชมาเจอจังหวะที่ช่วงช่อง One จัดละครมาราธอนยาวถึง 5 ม.ค. เป็นช่วงที่เรตติ้งช่อง One ลดลงมา และรายการหลักตามผังปกติอย่าง “ดวลเพลงชิงทุน” ไม่ได้ออกอากาศนาน เมื่อกลับมาออกอากาศตามผังปกติ ตั้งแต่วันที่ 6 ม.ค.63 เป็นต้นมา กลับกลายเป็นว่า ละครรีรัน “ คนละขอบฟ้า” กลับทำเรตติ้งได้สูงกว่า
เรตติ้งของล่าสุด วันที่ 13 ม.ค.63 พบว่าสำหรับรายการของช่วงเวลา 18.00 น. 2 อันดับแรก เป็นรายการรีรัน อันดับ 1 เป็นภาพยนตร์ Wonder Woman จากช่อง Mono เคยนำลงผังไปแล้วเมื่อเดือนก.ย.2562 ได้จัดมาลงผังกันอีกครั้ง ทำเรตติ้งสูงสุดของช่วงเวลาด้วยเรตติ้ง 2.748 และทำเรตติ้งสูงสุดเกือบทุกพื้นที่
อันดับ 2 ก็ยังเป็นรายการรีรันจากช่อง 3 ละคร “คนละขอบฟ้า” ทำเรตติ้งเฉลี่ยไว้ 2.596 ซึ่งสังเกตได้ว่า 2 รายการที่ทำเรตติ้งสูงสุด ล้วนเป็นคอนเทนต์เก่า ที่มาทำออกอากาศซ้ำ
ในขณะที่กลุ่มที่เหลือล้วนเป็นคอนเทนต์สร้างสรรค์ใหม่ ที่ยังใม่เคยออกอากาศมาก่อน โดยอันดับ 3-5 เป็นรายการ “ดวลเพลงชิงทุน”จากช่อง One ที่กำลังเริ่มไต่ระดับกลับคืนหลังหายไปนานในช่วงปีใหม่ ทำเรตติ้งไว้ 2.511 รายการ “แหวน 5 ท้าแสน” ช่อง 7 ได้ 2.247 และ “ไมค์หมดหนี้” จากเวิร์คพอยท์ 2.212
ทั้ง TOP 5 รายการกลุ่มนี้มาจากช่อง TOP5 ทั้งหมด แข่งกันนำเสนอรายการชิงเรตติ้งกันได้อย่างสูสี
ส่วนกลุ่มหลังอันดับ 6-10 มีเรตติ้งเฉลี่ยใกล้เคียงกัน ที่ส่วนใหญ่เป็นรายการข่าว และรายการถ่ายทอดสดมวยไทย ตั้งแต่ ข่าวใส่ไข่ ช่องไทยรัฐ 0.778 “ต่างคนต่างคิด” อมรินทร์ทีวี 0.776 “ข่าวเย็นช่อง 8 ช่วงที่ 2” ได้ 0.697 และ “เนชั่นทันข่าว” 0.668
ส่วนละครช่อง 8 “สางนางพราย” ตอนจบ ออนแอร์ช่วง 18.40- 20.08น. ได้เรตติ้ง 1.587
กลุ่มรายการรีรัน โดยเฉพาะละคร มักจะถูกจัดวางลงผังในช่วงที่แต่ละช่องต้องการลดต้นทุนการผลิตรายการ ให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจ ซึ่งแน่นอนว่าการจัดละรรีรันลงผังบ่อยครั้ง ย่อมได้รับการวิพากษ์วิจารณ์หนักจากผู้ชม เพราะผู้ชมจำนวนหนึ่งก็เรียกร้องอยากรับชมรายการใหม่ๆ ที่สร้างสรรค์ และสร้างความบันเทิงที่แตกต่างออกไป
ท้ายสุด สุดท้ายเป็นบทพิสูจน์ว่า content is king เนื้อหาที่เอามาออนแอร์ ไม่ว่าเป็นรายการเก่าหรือใหม่ แต่ถ้าใช้อย่างเหมาะสมก็สามารถเรียกความนิยมจากผู้ชมได้