ถ้าจะพูดกันถึงเงินรายได้จากโฆษณา ปี 2559 เป็นปีแห่งความยากลำบากของวงการโทรท้ศน์ วิบากกรรมตกหนักไม่ต่างกันทั้งผู้ผลิตรายการและช่องทีวีดิจิทัล เสียงที่ดังในวันนี้คือเจ้าของเม็ดเงินโฆษณา และเอเจนซี่โฆษณา ด้วยเหตุที่ว่าเม็ดเงินโฆษณามีจำกัด รายได้ที่คนทีวีเคยได้เป็นกอบเป็นกำ ต้องลดลงเป็นสัดส่วนที่แตกต่างจากเดิมมากมาย
เปรียบเป็นคนไข้ คนทีวีวันนี้ คงต้องรักษาอาการกันแบบเฝ้าดูอาการ วันต่อวัน สัปดาห์ต่อสัปดาห์
รอเวลาที่เศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกจะดีขึ้น เม็ดเงินกระจายสู่คนทุกระดับ ตั้งแต่คนมีถึงรากหญ้า
อย่างยั่งยืนกว่านี้ เม็ดเงินเพื่อการโฆษณาก็คงหมุนเวียนในตลาดมากขึ้น
การที่เม็ดเงินมีจำนวนน้อยและกระจุกตัวเช่นนี้ ผลร้ายที่ตามมานอกจากคำว่า “ขาดทุน” ก็คือคำว่า “คุณภาพ” แน่นอนว่าเมื่อเงินน้อยจนเสี่ยงต่อสภาวะขาดทุน ผู้ผลิตรายการก็ต้องลดต้นทุนส่งผลถึงรายการที่คงต้องลดคุณภาพตามไปด้วย
รายได้จากโฆษณาในเดือนกันยายน 2562 ที่นำเสนอในครั้งนี้เป็นข้อมูลประมาณการ ที่รวบรวมข้อมูลโดย
นีลเส็น เป็นเดือนที่ต้องบันทึกเป็นหน้าประวัติศาสตร์ของวงการโทรทัศน์ไทย เพราะเป็นเดือนสุดท้ายที่มี
สถานีโทรทัศน์ช่องเด็ก เป็นการปิดตัวของช่อง 3Family พร้อมกับการปิดตัวของช่อง 3SD เมื่อประกาศปิดตัวของช่องเม็ดเงินในช่องที่จะปิดตัวก็จะถูกโยกไปใช้ในช่องอื่นหรือสื่ออื่น การชี้วัดก็จะมีตัวแปรอื่นที่เข้ามา
ข้อมูลเปรียบเทียบเดือนกันยายน ปี 2562 กับปี 2561 จึงน่าจะเป็นข้อมูลเชิงอ้างอิงเท่านั้น แต่คงไม่สามารถนำมาวิเคราะห์เชิงวิชาการที่ชัดเจนได้ นอกจากช่อง 3Family และช่อง 3SD ที่ปิดตัวลงเป็น 2 ช่องล่าสุด ยังมีช่องอื่นอีกหลายช่องที่ทยอยปิดตัวไปก่อนหน้า
สรุปเม็ดเงินโฆษณา เชิงเปรียบเทียบในแต่ละกลุ่มมีดังนี้
กลุ่มช่อง HD มีทั้งหมด 7 ช่องครบตั้งแต่เริ่มประมูล ในเดือนนี้มีมูลค่าโฆษณารวมกัน 3,626.72 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3% เทียบกับปีที่แล้ว
กลุ่มช่อง SD วาไรตี้ มีทั้งหมด 6 ช่องในเดือนนี้ เป็นเดือนสุดท้ายของการออกอากาศช่อง 3SD ทำให้มีมูลค่าลดลง 8.25% มีมูลค่ารวมอยู่ที่ 1,406.05 ล้านบาท
กลุ่มช่องข่าว เดือนนี้เป็นเดือนที่เหลืออยู่เพียง 3 ช่องเท่านั้น ได้แก่ช่อง เนชั่นทีวี ทีเอ็นเอ็น และ นิวทีวี รายได้ในกลุ่มช่องนี้จึงมีมูลค่าลดลงสูงสุด ลดลง 48.20% จาก 201.78 ล้านบาทในเดือนก.ย.2561 มาอยู่ที่ 104.52 ล้านบาทเท่านั้น
กลุ่มช่องเด็ก เดือนก.ย.เป็นเดือนสุดท้ายของกลุ่มช่องนี้ที่มีอยู่ 2 ช่องแล้ว ทั้งช่อง MCOT Family และช่อง3 Family มีมูลค่าโฆษณารวมกันเพียง 27.55 ล้านบาทเท่านั้น
ในขณะที่กลุ่มช่องสาธารณะ มีอยู่ทั้งหมด 4 ช่องแต่ช่องที่สามารถมีโฆษณาในกลุ่มช่องนี้ มีเพียงช่อง 5 ช่อง NBT เท่านั้น แต่ก็เป็นเดือนที่มีมูลค่าโฆษณาเพิ่มขึ้นจาก 349.54 ล้านบาทในเดือนก.ย.ปี 2561 เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 438.19 ล้านบาท
รวมทั้งหมด ในเดือนก.ย.นี้ ธุรกิจทีวีดิจิทัล มีมูลค่าโฆษณารวมกันอยู่ที่ 5,603.03 ล้านบาท ลดลง 0.98% จากเดือนเดียวกันของปีที่แล้ว ที่มีมูลค่าอยู่ที่ 5.6,58.21 ล้านบาท
อย่างไรก็ตามข้อมูลเหล่านี้เป็นเพียงข้อมูลประมาณการ ยังไม่รวมส่วนลดของแต่ละช่อง
เม็ดเงินโฆษณาก้อนโตที่ใช้จ่ายกัน ก็ยังเป็นช่องหลัก ไม่ว่าจะเป็น ช่อง 7 ช่อง 3 โมโน ช่อง ONE ช่องเวิร์คพอยท์ ไทยรัฐทีวี อัมรินทร์ทีวี นอกนั้นก็กระจัดกระจายกันไปตามส่วน แม้ว่าหลายช่องจะทุ่มเติมคอนเทนต์เข้ามามากมาย
จากนี้จนถึงกลางเดือนธันวาคมคือโค้งสุดท้ายของการดำเนินธุรกิจในปีนี้ แต่ละช่องจะปิดบัญชีกันด้วย
ตัวเขียว ตัวแดง หรือตัวแด๊งแดง ไม่ช้าจะรู้กัน ว่าใครจะเป็นหมู่ เป็นจ่า เป็นนายร้อย