@@@ เหมือนเล่นขายของ !! เมื่อกสทช.โดนข้อกล่าวหา “ล็อคสเปค” ในการจัดหาผู้ทำเรตติ้งรายใหม่ พร้อมเม็ดเงินสนับสนุนก้อนโต 431 ล้านบาท โดยผู้กล่าวหาคือช่องที่มีเรตติ้งอันดับ 1 คือช่อง 7 ที่ไปยื่นฟ้องศาลปกครอง แถมมีกระแสโจมตีที่ว่า กสทช.ไม่ควรมายุ่งเกี่ยวกับเรื่องเรตติ้ง กสทช. ก็แสดงความเป็นเสือปืนไว ด้วยการรีบยกเลิกประกาศเจ้าปัญหาฉบับเดิม พร้อมร่างฉบับใหม่ ที่เกิดแบบรวดเร็วทันใจ ตัดเงื่อนไขที่เป็นข้อปัญหาคือตัด “องค์กรกลางอายุ 3 ปี” ออกไป เพื่อแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ ที่เปิดกว้างมาก ถึง มากที่สุด แต่ถ้ารอบคอบไวกว่านี้ ก็คงไม่ต้องร้อนอกร้อนใจ http://www.nbtc.go.th/getattachment/law/law_noti/nbtc_notification/หลักเกณฑ์-วิธีการ-และเงื่อนไขการจัดสรรเงินในกา-(1)/ประกาศฯ.pdf.aspx
@@@ เงื่อนไขใหม่ระบุให้ องค์กรกลางที่จะมาขอเงินกสทช.ทำเรตติ้งนั้น จะต้องมาจากการรวมตัวกันของทีวีดิจิทัลทุกช่อง ที่นับจากเดือนต.ค.เป็นต้นไปจะมีอยู่ทั้งหมด 19 ช่อง เป็นช่องเอกชน 15 ช่อง และช่องสาธารณะอีก 4 ช่อง ใครจะไม่มาร่วมต้องมีเหตุผลชี้แจง อีกทั้งเปิดช่วงเวลายาวนานถึง 1 ปี เพื่อรับข้อเสนอ ยังไม่รวมระยะเวลาพิจารณาให้เงินสนับสนุน อ่านแล้วตีความหมายง่ายๆ เหมือนกสทช.หาทางลงไม่ให้เจ็บตัว ซื้อเวลากันไป ว่าแต่ว่าใครจะเป็นคนจัดระเบียบให้ปูทั้ง 19 ตัวอยู่ในกระด้งอย่างมีระเบียบล่ะ …..ไม่อยากจะคิด
@@@ คนจัดระเบียบให้ปูทั้ง 19 ตัวอยู่ในกระด้ง แค่คิดเบื้องต้น ก็แทบจะเป็นเรื่องเหลือเชื่อเสียแล้ว การจะทำให้ทุกช่องมาร่วมมือกันคิดไปในแนวทางเดียวกัน จุดสมดุลย์แห่งความพอดีในโลกวิทยาศาสตร์ คงไม่ยากที่จะหาสูตรคำนวณ แต่จุดสมดุลย์แห่งความพอดีในการคัดเลือกผู้จัดจัดทำเรตติ้ง เค้าลางแห่งความวุ่นวายและไปได้ไม่สุดทาง ปรากฏให้เห็นจากประสบการณ์เดิมเมื่อปี 2558 ที่เกิดกรณีเสียงแตก และตามมาด้วย “วงแตก” ย้อนมามองหน่วยงานในวงการทีวีในวันนี้ ที่เป็นเสมือนแกนกลางในการดำเนินงานเรื่องต่าง ๆ ก็มีเพียงแค่ 2 หน่วยงาน รายแรกอยู่คู่วงการทีวีไทยมาช้านาน “ทีวีพูล” หรือโทรทัศน์รวมการเฉพาะกิจแห่งประเทศไทย ที่มีสมาชิกหลักคือกลุ่มช่องในยุคแอนะล็อค ช่อง 3 ช่อง 5 ช่อง 7 โมเดิร์น 9 ช่อง 11 และอีกหน่วยงานคือ สมาคมผู้ประกอบการทีวีดิจิทัล ที่เกิดขึ้นจากกลุ่มช่องทีวีดิจิทัลใหม่ ที่ผ่านมาก็ไม่มีบทบาทที่แข็งแรงอะไรมากมายนัก การยอมรับและความร่วมมือก็ยังไม่ได้มาจากทุกช่อง ดูทรงนี้ ครบปีหน้า ก็คงจะจบ แต่จะจบแบบมีข้อสรุป หรือ “จบกัน” เรา ท่าน ต้องติดตาม 1 ปี มี 12 เดือน ไม่นานเกินรอหรอกน่า
@@@ ย้ำเตือนอีกนิด ประกาศกสทช.ฉบับนี้เกิดขึ้นจากคำสั่งคสช.ตามมาตรา 44 ที่มีการระบุว่า หากมีปัญหาอะไรเกิดขึ้น ให้อำนาจเลขาฯกสทช.ตัดสิน แต่ ครบ 1 ปีหน้า ตามประกาศฉบับนี้ เลขาฯกสทช. ท่าจะไม่ใช่คนชื่อ “ฐากร ตัณฑสิทธิ์” เลขาคนปัจจุบัน เพราะท่านจะเกษียณอายุในวันที่ 10 ก.ย.ปีหน้าแล้วจ้า
@@@ แม้ว่าบริษัทร่วมทุนระหว่าง BNK 48 กับเวิร์คพอยท์ ปิดบริษัทไปอย่างเป็นทางการไปแล้ว เมื่อวันที่ 17 ก.ย.ที่ผ่านมา พร้อมตัวเลขขาดทุน 5.97 ล้านบาท การร่วมมือกันทำธุรกิจและผลิตรายการ ออกอากาศทางช่องเวิร์คพอยท์ ต้องถือว่าไม่ประสบความสำเร็จ ทั้งในด้านเรตติ้งและรายได้ ก็เพราะว่า ถ้าทำแล้วดี ทำแล้วดัง ก็คงจะไม่แยกทางกันแบบนี้ แต่ถ้าหันมามองที่ตัวเลขผลประกอบการบริษัท บีเอ็นเค 48 ออฟฟิศ ยังสวยหรู เปิดบริษัทมา 2 ปี ขาดทุนในปีแรก 22.30 ล้านบาท แต่อย่าเพิ่งตกใจ เพราะในปีที่ 2 กวาดกำไรไปถึง 146.85 ล้านบาท
จดทะเบียน 11 มิ.ย.2561 |
เลิกกิจการ 17 มิ.ย.2562 |
รายได้ | 16.54 ล้านบาท |
ขาดทุน | -5.97 ล้านบาท |
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
ปี | 2560 | 2561 |
รายได้รวม | 40.55 | 673.30 |
กำไร (ขาดทุน) | – 22.30 | 146.85 |
ที่มา : กรมพัฒนาธุรกิจการค้า
@@@ ตัวเลขกำไรงามขนาดนี้ บริษัท BNK 48 ออฟฟิศ จึงเดินหน้าคิดค้นโปรเจคท์ใหม่ต่อเนื่อง รวมถึงแผนการหวนกลับคืนช่องทีวี ที่แว่วมาว่า น่าจะมีเหยื่อรายใหม่ที่ไม่กลัวน้ำร้อนมาอ้าปากรอฮุบเบ็ดแล้ว หวยงวดใหม่ จะไปออกกับช่องไหน แล้วจะลงเอยแบบเดียวกับกรณีเวิร์คพอยท์ไหม น่าติดตาม ว่าแต่ว่าช่องใหม่ที่จะอ้าแขนรับ จะไม่ถาม “พี่ตา ปัญญา” สักนิดเหรอจ๊ะว่า สุข ทุกข์อย่างไร
@@@ ปัญหาน่าปวดหัวของลิขสิทธิ์
@@@ แล้วช่องที่ตกปากรับคำจะร่วมมือตั้งตัวเป็นแม่ข่าย ถ่ายทอดกีฬาโอลิมปิก 2020 อย่างช่องที่มีกีฬาเยอะ ๆ ช่องนั้น จะไม่เสียความรู้สึกบ้างเหรอ อุตส่าห์จัดทัพ เสริมกำลังคนไว้รอท่า แล้วงานหน้า ไปชวนเค้าร่วมมือ ลงขัน เค้าจะกล้ามาร่วมมือด้วยไหม