ผลจากการจัดภาพยนตร์ชื่อดัง Harry Potty ลงผังตลอดช่วงเวลาไพรม์ไทม์ทั้งสัปดาห์ 3-9 ก.ย. ทำให้เรตติ้งเฉลี่ยของช่องโมโนพุ่งปรี๊ดจากเรตติ้งเฉลี่ย 0.834 ในอันดับ 4 ขึ้นมาสู่อันดับ 3 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ยสูงถึง 1.079
เรตติ้งของ Harry Potter ในบางวันสูงถึงเรตติ้งแตะหลัก 4 ในบางช่วง เช่นในวันพุธที่ 5 ก.ย. Harry Potter and the Prisoner of Azkaban ช่วงที่ 1 เรตติ้ง 4.373 และช่วงที่ 2 เรตติ้ง 3.079 รวมได้เรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องอยู่ที่ 3.142 โดยมีตัวเลขผู้ชมในต่างจังหวัดอยู่ที่ 3.208 มากกว่ากรุงเทพที่ได้ 2.754 ส่วนวันพฤหัสที่ 6 ก.ย. ตอน Harry Potter and the Goblet of fire ได้เรตติ้งเฉลี่ยทั้งเรื่องจาก 2 ช่วงเวลาสูงถึง 3.798
ในช่วงที่รายการอื่นทั้งละครไทย และวาไรตี้ยังไม่ร้อนแรงมาก ทำให้หนังอินเตอร์กลายเป็นทางเลือกของผู้ชม ที่ต้องการเปลี่ยนบรรยากาศคอนเทนต์บันเทิง และเป็นจุดแข็งที่เป็นเอกลักษณ์ของโมโนที่ไม่เหมือนใคร
ส่วนช่องเวิร์คพอยท์หลังจบมหกรรมกีฬาเอเชียนเกมส์ เรตติ้งก็กลับมาสู่ภาวะปกติเหมือนเดิม ตกลงจากอันดับ 2 เรตติ้งเฉลี่ย 1.312 ในสัปดาห์ที่แล้วมาอยู่ที่อันดับ 4 ด้วยเรตติ้งเฉลี่ย 0.765
ช่องพีพีทีวีก็เช่นกัน เมื่อไม่มีกีฬาเอเชียนเกมส์ เรตติ้งเฉลี่ยช่องก็หล่นจากอันดับ 10 เรตติ้งเฉลี่ย 0.224 มาอยู่อันดับ 13 เรตติ้งเฉลี่ย 0.128 แม้ว่ามีการลงทุนซื้อลิขสิทธิ์ เทนนิสยูเอสโอเพ่น แกรมด์แสลมสุดท้ายของปี รอบชิงชนะเลิศก็ตาม แต่ด้วยปัญหา Time Zone แมตช์ชิงหญิงเดี่ยวที่มีเรื่องดราม่าของ เซเรนา วิลเลียมส์ ถ่ายทอดสดในเวลา 02.55-05.8 เรตติ้งถ่ายทอดสดจึงได้แค่เพียง 0.078 เท่านั้น และเมื่อนำมารีรันใหม่อีกครั้งในช่วงไพรม์ไทม์วันอาทิตย์ที่ 9 ก.ย. ได้เรตติ้งเฉลี่ย 0.211
สำหรับรายการที่ได้เรตติ้งสูงสุดประจำสัปดาห์นี้ยังคงเป็นของ “สังข์ทอง” ละครพื้นบ้านช่อง 7 เรตติ้ง 7.106 และ 7.414 สำหรับวันที่ 8-9 ก.ย.
ละครช่วงไพรม์ไทม์ที่บี้กันสุดๆช่วงนี้ กลายเป็นละครช่วงวันหยุด ของการแข่งขันกันระหว่าง ละครโรแมนติค ดราม่า “เจ้าสาวจำยอม”ช่อง7 และ ละครบู๊ในตำนาน “อังกอร์” ช่อง 3 โดยเฉพาะในวันเสาร์ที่ 8 ก.ย. และอาทิตย์ที่ 9 ก.ย. เรตติ้งสูสีกันทั้งสองวัน โดย “เจ้าสาวจำยอม” ได้ไป 5.767 และ 5.426 ส่วน “อังกอร์” ได้ 5.711 และ 5.362
